ราคาทองปิดร่วง 33 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย

25 พ.ย. 2563 | 00:12 น.

ราคาทองปิดร่วง 33.2 ดอลลาร์ นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความราบรื่นในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีของสหรัฐ

ราคาทองสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความราบรื่นในการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีของสหรัฐ
          

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 33.2 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 1,804.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดาวโจนส์พุ่ง 454 จุด ทำสถิติปิดเหนือระดับ 30,000 จุดครั้งแรก

พยากรณ์อากาศวันนี้ เหนือ-อีสานอากาศเย็น ภาคใต้ตอนล่างระวังฝนตกหนัก
          

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 33.3 เซนต์ หรือ 1.41% ปิดที่ 23.3 ดอลลาร์/ออนซ์
          

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 26.6 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 958.3 ดอลลาร์/ออนซ์
          

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 2,352.20 ดอลลาร์/ออนซ์
        

นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้มอบหมายให้นางเอมิลี เมอร์ฟีย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐ (General Services Administration - GSA) เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่คณะบริหารของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ซึ่งทำให้นายไบเดนสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่างๆที่จำเป็นในการถ่ายโอนอำนาจ เพื่อเปิดทางให้เขาสามารถเข้าทำหน้าที่ในทำเนียบขาวได้อย่างราบรื่น
          

นอกจากนี้ ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย โดยแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนที่บริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด มีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ขณะที่ไฟเซอร์ระบุว่า วัคซีน BNT162b2 ที่ไฟเซอร์พัฒนาร่วมกับบริษัท BioNTech นั้น มีประสิทธิภาพมากถึง 95% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ ที่มีประสิทธิภาพ 94.5%          

นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 4-5 พ.ย.ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงินซึ่งมีเป้าหมายที่จะเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19