เปิดไทม์ไลน์คนละครึ่งเฟส2-พ่วงขยายเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500

23 พ.ย. 2563 | 08:19 น.

เปิดไทม์ไลน์คนละครึ่งเฟส 2 ปลัดคลัง ย้ำชัด ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 1 ได้รับสิทธิอัตโนมัติ พร้อมพ่วงขยายเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เตรียมเสนอที่ประชุม ศบศ.ที่มีนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก่อนเสนอ ครม.

จากกรณีที่ กระทรวงการคลัง ได้เปิดโครงการคนละครึ่ง โดยเปิดให้ประชาชนและร้านค้าเข้าร่วมโครงการด้วยการลงทะเบียนคนละครึ่ง บนเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com  เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 10 ล้านสิทธิ โครงการคนละครึ่ง ได้รับการตอบรับจากประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโครงการคนละครึ่งเฟสสอง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คนละครึ่งเฟส 2 สรุป ต้นธันวาคมนี้

เปิดขั้นตอนใช้แอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง-ถุงเงิน" "ลงทะเบียนคนละครึ่ง” อย่างละเอียด

อัปเดต ลงทะเบียนคนละครึ่งร้านค้า วิธีใช้แอป “ถุงเงิน” สรุปอย่างละเอียดที่นี่

เปิดเงื่อนไขเบื้องต้น "ลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส2" สรุปที่นี่

 

จนในที่สุดนายกรัฐมนตรี ได้สั่งกระทรวงการคลังให้ขยายโครงการคนละครึ่งเฟสสอง แต่ก่อนที่จะมีโครงการคนละครึ่งเฟสสอง กระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนในกลุ่มตกหล่น จำนวน 3รอบ ล่าสุด เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนคนละครึ่งกลุ่มตกหล่นรอบ3 เปิดให้ลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com  จำนวน  7.2 แสนสิทธิที่ผ่านมา โดยเปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่ง เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ตั้งแต่เวลา 06-23.00 น. หลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรอบ3 ปรากฏว่าผ่านไปแค่สองชั่วโมงปิดรับลงทะเบียนคนละครึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ กระทรวงการคลัง กำลังบวกลบคูณหารตัวเลขเพื่อเปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 โดยสรุปรายละเอียดภายในต้นเดือนธันวาคมนี้  ไม่ใช่แต่เปิดคนละครึ่งเฟส 2 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน ได้สิทธิขยายเติมเงิน 500 บาท ซึ่งสิ้นสุดโครงการในวันที่ 1 ธ.ค.นี้อีกด้วย

 

สำหรับรายละเอียดไทม์ไลน์คร่าว ๆ คนละครึ่งเฟส2 และ ขยายเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน โดย“ฐานเศรษฐกิจ” ได้ประมวลและรวมรวมไว้ดังนี้

  • จำนวนวงเงินคนละครึ่ง มอบหมายให้ ธนาคารกรุงไทย รวบรวมข้อมูลจำนวนสิทธิวงเงินที่จะได้
  • เพิ่มเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปัจจุบันได้รับเพิ่มเดือนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน
  • 2 ธ.ค.เสนอให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พิจารณา
  • หลังจากนั้น เสนอให้ คณะรัฐมนตรี อนุมัติอย่างเป็นทางการ
  • ผู้ที่ได้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 1 ได้สิทธิ์เฟส 2 โดยอัตโนมัติ
  • ได้วงเงินเพิ่มเติมรวมถึงขยายเวลาการใช้จ่ายให้ถึงต้นปีหน้ายาวต่อไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 12 ก.พ.2564

ข้อมูลลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 2 และ ขยายเติมเงิน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  “ฐานเศรษฐกิจ” ได้รวบรวมจากสรุป งาน Wealth Forum : ลงทุนอย่างไร..ให้รวย ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ และหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  (วันที่ 23 พ.ย.) โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ก็ยังคงเดินหน้าใช้มาตรการทางการคลังดูแลเศรษฐกิจต่อ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เร่งสรุปการขยายมาตรการคนละครึ่ง และการเติมเงินค่าครองชีพให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) ที่มานายกรัฐมนตรีพิจารณาในต้นเดือนธ.ค.นี้ ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป

 

ทั้งนี้ในส่วนของคนละครึ่งเฟส 2 นั้น กระทรวงการคลังจะพยายามเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ เข้ามามีส่วนร่วมทั้งหมด แต่จะมีการขยายจำนวนผู้ที่ได้สิทธิ์เท่าไร และเพิ่มวงเงินอีกมากน้อยเพียงใด ได้ให้ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ไปตรวจสอบข้อมูลยอดลงทะเบียนทั้งหมดที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร เพื่อนำมาประเมินการขยายจำนวนสิทธิ์และวงเงินที่เหมาะสมต่อไป แต่เบื้องต้นผู้ที่ได้รับสิทธิ์เฟส 1 แล้ว จะได้สิทธิ์เฟส 2 โดยอัตโนมัติ พร้อมกับได้วงเงินเพิ่มเติมรวมถึงขยายเวลาการใช้จ่ายให้ถึงต้นปีหน้ายาวต่อไปถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 12 ก.พ.2564

 

ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาเพิ่มเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับผู้ถือสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ปัจจุบันได้รับเพิ่มเดือนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือนด้วย ส่วนการลงทะเบียนผู้ถือบัตรฯ รอบใหม่นั้น จะเริ่มภายหลังจากโครงการคนละครึ่งสิ้นสุดลงแล้ว

 

นายกฤษฎา กล่าวว่า งบประมาณที่ใช้ในโครงการคนละครึ่งเฟส2 เพียงพอในการจัดสรรลงไปยังประชาชนเพราะสามารถนำเงินจากพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่เป็นส่วนของงบฟื้นฟู 400,000 ล้านบาท มาใช้ดำเนินการได้ แต่จะเป็นเท่าไร ต้องขึ้นอยู่กับการศึกษาความเหมาะสมต่างๆ ก่อน

 

"ตอนนี้อยู่ระหว่างให้กรุงไทยไปดูคนที่เคยเข้าลงทะเบียนว่ามีมากน้อยแค่ไหน เพื่อใช้ประเมินในการขยายสิทธิ์ให้ครอบคลุมคนที่อยากได้ เช่น อาจจะเพิ่มเป็น 14-15 ล้านคน ก็ได้ แต่จะต้องดูทั้ง 3 กลุ่ม เพราะถ้าคนไหนคิดว่ามีฐานการเสียภาษีเกิน 10% ก็ควรใช้ช้อปดีมีคืน ซึ่งจะได้เงินคืนอย่างน้อย 3,000 บาท แต่ต้องประเมินก่อน ซึ่งจะดูในภาพรวมทั้งหมด ทั้งคนละครึ่งและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และวงเงินที่ต้องใช้ด้วย"นายกฤษฎา กล่าว