"ชริ้งเฟล็กซ์" เข้าเทรด MAI 29 ต.ค. นี้ ระดมทุนขยายธุรกิจฟิล์มหดรัดรูป

28 ต.ค. 2563 | 12:21 น.

บมจ. ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย)  หนึ่งในผู้นำการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปครบวงจรของประเทศไทย พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 29 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IP0 1,672 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SFT”

 

ประพันธ์ เจริญประวัติ

 

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย)  เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SFT” ในวันที่ 29 ตุลาคม 2563

 

SFT ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายฉลากฟิล์มหดรัดรูป สำหรับบรรจุภัณฑ์ของสินค้าชนิดต่างๆ ให้กับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น มีบริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ การเลือกใช้วัตถุดิบ การออกแบบฉลาก รวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการหดตัวของฉลากฟิล์มเพื่อให้บรรจุภัณฑ์มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรับออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิต และนำเข้าผลิตภัณฑ์ฟิล์มยืดที่ใช้รัดสินค้าบนพาเลทเพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าของบริษัท

 

SFT มีทุนชำระแล้ว 220 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 320 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) โดยเสนอขายให้บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และผู้มีอุปการคุณของบริษัท รวมจำนวน 78 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ลงทุนสถาบัน จำนวน 30 ล้านหุ้น และเสนอขายให้กับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 12 ล้านหุ้น ในระหว่างวันที่ 19 – 22 ตุลาคม 2563 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3.80 บาท บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 456 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,672 ล้านบาท โดยการกำหนดราคาหุ้น IPO ใช้วิธีสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book building) ของผู้ลงทุนสถาบัน

ทั้งนี้บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) โดยบริษัทมีกำไรสุทธิในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2562-30 มิถุนายน 2563) เท่ากับ 59.71 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.14 บาท และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 27.14 เท่า มี บมจ. บล. อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

 

นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) (SFT) เปิดเผยว่าจากประสบการณ์ของผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปกว่า 12 ปี SFT มีทีมงานที่มีความมุ่งมั่นพัฒนากระบวนการผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโรงงานผลิตแห่งใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตในตลาดฟิล์มหดรัดรูปเดิมและรองรับตลาดใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

ทั้งนี้ SFT มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายซุง ชง ทอย ถือหุ้น 47.27% และกลุ่มปิยะตรึงส์ ถือหุ้น 25.45% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท

 

รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.shrinkflexthailand.com และ www.set.or.th