"อาคม" ยันแบงก์รัฐพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ 6.57 ล้านรายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้

22 ต.ค. 2563 | 08:37 น.

"อาคม" รมว.คลัง ยืนยัน แบงก์รัฐมีมาตรการรองรับ หลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ พร้อมสั่ง อย่าให้หนี้ตกชั้น หวั่นเกิดหนี้เสียเพิ่ม

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 7 แห่ง ออกมาตรการดูแลลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการพักชำระหนี้จากผลกระทบโควิด-19 จำนวน 6.57 ล้านราย ที่คิดเป็นมูลหนี้ 2.89 ล้านล้านบาท หลังจากสิ้นสุดมาตรการของแต่ละแบงก์ โดยยืนยันลูกหนี้ทุกรายไม่ต้องกังวลใจ จะได้รับความช่วยเหลือหลังสิ้นสุดมาตรการต่อแน่นอน ซึ่งจะมีการขยายเวลาให้ตั้งแต่ 3-12 เดือน 


“การช่วยเหลือของแบงก์รัฐจะไม่เหมือนกับแบงก์พาณิชย์ เพราะมีความยืดหยุ่นกว่า ซึ่งจะมีทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ การขยายเวลาการพักหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย รวมถึงการลดดอกเบี้ยให้ด้วย เพื่อให้ลูกหนี้เดินต่อได้ เพราะเข้าใจว่าสถานการณ์ยังไม่ปกติ รายได้ที่มีก็อาจยังไม่กลับมาเต็มที่”นายอาคม กล่าว 


อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกธนาคารเฉพาะกิจของรัฐมีความแข็งแกร่ง เห็นได้จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เช่นธนาคารออมสิน มีการตั้งรองประมาณ 1.2 เท่าของหนี้เสีย ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ตั้งสำรองไว้ที่ 1.6 เท่า และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) 5.6 เท่า

 ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาในการช่วยเหลือลูกหนี้แน่นอน ซึ่งได้สั่งการให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐดูแลไม่ให้ลูกหนี้ที่ยังมีความสามารถในการชำระหนี้บ้าง แม้จะไม่สม่ำเสมอ ไม่ให้ตกชั้นกลายเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้

 

"อาคม" ยันแบงก์รัฐพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ 6.57 ล้านรายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้
ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินที่หนี้ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษประมาณ 10% หรือ 100,000 ล้านบาท ของหนี้ที่พักชำระทั้งหมด 1 ล้านล้านบาท แต่แบงก์จะพยายามดูแล โดยมาตรการรองรับในระยะต่อไป สำหรับลูกหนี้ที่ยังมีความเสี่ยงสูง ด้วยการพักชำระหนี้ และลดดอกเบี้ยให้เป็นระยะเวลา 6 เดือน และจากนั้นจะประเมินความสามารถในการชำระหนี้เป็นรายตัว เพื่อเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสมให้ ขณะเดียวกันยังมีสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่อง รายละ 10,000 บาท และ 50,000 บาทด้วย 

 

"อาคม" ยันแบงก์รัฐพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ 6.57 ล้านรายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้

ขณะที่นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า แบงก์ได้มีการแบ่งชั้นลูกหนี้ที่เข้าโครงการพักชำระหนี้ไว้ โดยคาดว่าในจำนวนหนี้ 1.27 ล้านล้านบาท จะมีลูกหนี้ที่มีศักยภาพ ที่จะกลับมาผ่อนชำระได้ตามปกติประมาณ 67% ส่วนลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพแต่ต้องดูแลเพิ่มเติมประมาณ  27% และลูกหนี้ที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษประมาณ 4.9% ซึ่งที่ผ่านมา ธอส.ได้มีการขยายมาตรการการพักชำระหนี้ออกไปบางส่วน ขณะเดียวกันยังได้มีการเตรียมมาตรการระยะที่ 3 ไว้หลังสิ้นสุดมาตรการในเดือนม.ค.2564  ออกไปอีก 3 เดือน ไปสิ้นสุดในเดือนเม.ย.2564 
 

 

"อาคม" ยันแบงก์รัฐพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ 6.57 ล้านรายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้

ด้านนายสุรชัย รัศมี รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารธ.ก.ส. กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ธ.ก.ส. 20,000 ราย ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เกษตรกรที่พักชำระหนี้ทั้งหมด 1 ล้านล้านบาท หลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะมีการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ขณะเดียวกันแบงก์ยังจะมีสินเชื่อเสริมสภาพคล่องไว้ให้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนอีกด้วย 

"อาคม" ยันแบงก์รัฐพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้ 6.57 ล้านรายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้
ส่วนนางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการเอสเอ็มอีแบงก์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกหนี้ที่เข้ามาตรการพักชำระหนี้ 40,000 ราย คิดเป็นวงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้จะกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 20,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือทางแบงก์จะมีมาตรการช่วยเหลือด้วยการยกเว้นการชำระเงินต้นออกไปอีก 6 เดือน หรือถึงเดือนเม.ย.2564 ขณะที่ลูกหนี้ที่จับตาดูเป็นพิเศษคาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 15% ซึ่งในจำนวนนี้มี 2% ที่ไม่สามารถติดต่อได้เลย