จับตาไอพีโอบิ๊กแคป SCGP เทรด 22 ต.ค.63

21 ต.ค. 2563 | 07:33 น.

เตรียมรับหุ้นไอพีโอน้องใหม่ SCGP เทรดวันแรก 22 ตุลาคม 2563 ด้วยราคาไอพีโอ 35.00 บาท และมาร์เก็ตแคปกว่า 1.4-1.5 แสนล้านบาท คาดเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 แบบ Fast track

หลังจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้หลายบริษัทต้องเลื่อนเข้าจดทะเบียนเพราะไม่สามารถจัดโรดโชว์ให้แก่นักลงทุนได้ โดยหลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง มีบริษัทจดทะเบียน(บจ.) เริ่มกลับมาเสนอขายไอพีโอได้อีกครั้ง โดยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563 มีบจ.เสนอขายหุ้นไอพีโอใหม่จำนวน 9 บจ. แบ่งเป็นเข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 4 บจ. และ mai จำนวน 5 บจ.

 

ขณะที่ หุ้นไอพีโอใหม่ที่ถูกจับตาและได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก คือ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP) ประกอบธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร โดยจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 1,127.6 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over Allotment) จำนวนไม่เกิน 169.1 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 35.00 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ประมาณ 140,000-150,000 ล้านบาท ทั้งนี้ SCGP มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อับแรก คือ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC), นายเทวัญ ตันติจัตตานนท์, บริษัท แรนเดอรีเบอรามาการ จำกัด, นางสาวอรพินทร์ ธิดารัตน์ และนายแมน นานา

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCGP เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลท.วันที่ 22 ตุลาคม 2563 ซึ่งจะนำเงินจากการระดมทุนมาใช้ขยายธุรกิจ ชำระเงินกู้และเป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยวางแผนขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงพร้อมกันนี้ได้วางโมเดลธุรกิจ Packaging Solutions ที่แตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์แก่ลูกค้า ตลอดจนรักษาตำแหน่งผู้นำธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

จับตาไอพีโอบิ๊กแคป SCGP เทรด 22 ต.ค.63

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมกล่าวว่า การเสนอขายหุ้น ของ SCGP ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินแก่ SCGP รองรับขยายธุรกิจต่อไป จึงเชื่อว่าหลังจากเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรก จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยคาดว่า SCGP จะเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ที่คำนวณดัชนี SET 50 ตามเกณฑ์ของตลท.

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย พลัส จำกัด ระบุว่า การเตรียมเข้ามาซื้อขายครั้งแรกของหุ้นไอพีโอขนาดใหญ่ อย่าง SCGP ในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 เป็นปัจจัยลบระยะสั้นต่อดัชนีหุ้นไทย เนื่องจากกองทุนจะเร่งเตรียมเงิน สำหรับปรับน้ำหนักพอร์ตใหม่ (reweight) ในช่วงนี้ เพื่อรองรับการเข้ามาของหุ้น SCGP รวมถึงกองทุนประเภท Passive Fund จะเตรียมปรับพอร์ตต่อหลังจากหุ้น SCGP เข้าตลาดมาได้ 3 วัน เพราะSCGP มีโอกาสสูงที่จะเข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ SET100 แบบ Fast track (T+3) จากการเข้าเกณฑ์พิเศษของตลาด คือ มูลค่ากิจการสูงกว่ามาร์เก็ตแคป 20 อันดับแรก และยังสูงกว่า 1% ของสัดส่วนหุ้นทั้งหมดในดัชนีหุ้นไทย 

 

ขณะเดียวกัน ประเมินว่าหุ้นอื่นๆ ที่มีโอกาสเข้า SET50 และ SET100 ในรอบครึ่งปีแรก ปี 2564 คือ SET 50 ได้แก่ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM), บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DELTA), บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) และบริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (COM7) ส่วน SET100 ได้แก่ บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) (DCC) และบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (JMART)

จับตาไอพีโอบิ๊กแคป SCGP เทรด 22 ต.ค.63