www.คนละครึ่ง.com เตือนประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตนได้รับสิทธิ์ต้องใช้ภายใน 14 วัน

18 ต.ค. 2563 | 20:00 น.

www.คนละครึ่ง.com เตือนประชาชนลงทะเบียนยืนยันตัวตนแล้วเสร็จต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน เลยกำหนดถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก

วันนี้ 19 ต.ค. โครงการคนละครึ่ง เปิดให้ลงทะเบียนคนละครึ่ง วันนี้เป็นวันที่สาม ประชาชนลงทะเบียนไปแล้วทะลุ 5 ล้านสิทธิ์ ยังคงเหลือสิทธิ์ประมาณ 4,191,938 สิทธิ์  โดยโครงการคนละครึ่ง กระทรวงการคลัง เปิดให้ ลงทะเบียนคนละครึ่ง  บนเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ให้กับประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป สามารถลงทะเบียนได้ แต่มีข้อจำกัดสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์สวัสดิการแห่งรัฐ และ ผู้ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวเดียวกันไปก่อนหน้านี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

www.คนละครึ่ง.com เปิด 3 ขั้นตอนวิธีการใช้งานแอปถุงเงิน สำหรับร้านค้า

www.คนละครึ่ง.com เปิดรายะเอียด 7 ขั้นตอนสมัครเข้าร่วมโครงการสำหรับร้านค้า

www.คนละครึ่ง.com เปิดเงื่อนไข 6 ข้อการใช้สิทธิสำหรับประชาชน

เปิด 4 ข้อห้าม "คนละครึ่ง" ฝ่าฝืนถูกตัดสิทธิ จ่ายค่าเสียหายคืนรัฐใน 7 วัน

 

สำหรับ โครงการคนละครึ่ง เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. เมื่อ ลงทะเบียนคนละครึ่ง ครบจำนวน 10 ล้านราย เป็นอันสิ้นสุดลงทะเบียนคนละครึ่ง

 

แต่รู้หรือไม่เมื่อประชาชนได้รับสิทธิ์ ลงทะเบียนคนละครึ่ง แล้วเงื่อนไขและรายละเอียดในการใช้จ่ายเป็นอย่างไรนั้น เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก นายพรชัย  ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษก ว่า  ผู้ที่ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนสำเร็จแล้วจะเริ่มใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. โดยต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ หรือ วันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก เช่น ได้รับ SMS ระหว่างวันที่ 16 - 23 ตุลาคม 2563 ต้องใช้สิทธิภายในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้น

 

 

สำหรับวิธีการใช้จ่ายกับร้านค้า ท่านสามารถเติมเงินโดยการโอนเงินของท่านไปยัง แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ตามต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องโอนครั้งเดียว 3,000 บาท เช่น หากท่านต้องการจ่ายค่าอาหาร 200 บาท ท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” อย่างน้อย 100 บาท เพื่อสแกนจ่ายเงินกับร้านค้า “ถุงเงิน” โดยรัฐจะช่วยจ่ายให้ร้านค้าอีก 100 บาท หรือหากท่านจะใช้จ่ายค่าสินค้าจำนวน 400 บาท รัฐจะร่วมจ่ายให้ร้านค้า 150 บาท และท่านต้องมีเงินใน “เป๋าตัง” เพื่อสแกนจ่ายเงินอีกอย่างน้อย 250 บาท ทั้งนี้ ภาครัฐจะร่วมจ่ายไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ

 

 

หลังลงทะเบียนสำเร็จ จะได้รับวงเงิน 3,000 บาท รัฐบาลจะออกค่าสินค้าให้ครึ่งหนึ่ง แต่ไม่เกินวันละ 150 บาท หรือ คิดเป็นมูลค่าสินค้า 300 บาท สามารถใช้ซื้อสินค้าได้ทุกประเภท ยกเว้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ สลากกินแบ่งรัฐบาล และการบริการ ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับ SMS ยืนยัน หากไม่ใช้จะถูกตัดสิทธิ์ทันที สามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมจนถึง 31 ธันวาคม หรือ สิ้นปีนี้ และ ต้องใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 236,000 ร้านค้าทั่วประเทศ