หุ้นไทยปิดฉากสิ้นปีที่ 1,300 จุด

01 ต.ค. 2563 | 08:14 น.

บล.ไทยพาณิชย์ คาดหุ้นไทยปิดสิ้นปี 2563 ที่ 1,300 จุด แนะจับตาตลาดมีแนวโน้มความผันผวนปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 4 เปิด 3 ธีมการลงทุน Core Portfolio, Tactical Portfolio และ S-curve Portfolio

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2563 จะอยู่ที่ 1,300 จุด โดยเศรษฐกิจไทยที่ปรับตัวลงดูเหมือนจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และปัจจัยบวกอยู่ที่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งโควิด-19 จะช่วยกระตุ้นให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เร็วขึ้น ในกรณีของเศรษฐกิจไทยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มท่องเที่ยวหดตัวลงประมาณ 50% และกลุ่มขนส่งลดลง 39% สาเหตุมาจากมาตรการห้ามการเดินทางเข้าประเทศ เพราะสองกลุ่มนี้มีสัดส่วนค่อนข้างมากใน GDP ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวลงมากขึ้นจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ -5.9% สู่ -7.8%

อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องจำนวนมากจะส่งผลทำให้ภาวะเศรษฐกิจและราคาสินทรัพย์ปรับตัวสวนทางกันโดยเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางโอกาสสูงขึ้นที่จะเกิดการระบาดรอบสองของโควิด-19 ซึ่งแพร่กระจายได้ง่ายขึ้นในฤดูหนาว นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็ไม่น่าจะมีผลมากนักเมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติ ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ Brexit ที่ไร้ข้อตกลง มีแนวโน้มที่จะส่งผลทำให้ตลาดผันผวน

ขณะที่ ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกในไตรมาส 4 ปี 2563 คาดว่าเศรษฐกิจและการลงทุนทั่วโลกจะดูน่าเป็นห่วงมากขึ้น โดยอิงกับปัจจัยเสี่ยง 3 ประการ ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นไปอย่างช้าๆ เปราะบาง และไม่แน่นอน ตัวเลขเศรษฐกิจอาจแสดงสัญญาณชะลอตัวสืบเนื่องมาจากความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดรอบสองของโควิด-19 ที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่

นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะตึงตัวขึ้น ถ้าโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เนื่องจากไบเดนวางแผนที่จะปรับเพิ่มขาดดุลการคลังประมาณ 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ใน 10 ปี เพื่อสนับสนุนการใช้จ่ายของรัฐในส่วนของสวัสดิการสังคมและโครงการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งนี้ ยังวางแผนจัดหาเงินทุนสนับสนุนการเพิ่มขาดดุลการคลังด้วยการเพิ่มรายได้ภาษีสู่ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุด 2 ประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนระหว่างสหรัฐฯและจีนถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของสหรัฐฯ ที่จะป้องกันไม่ให้จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจ

หุ้นไทยปิดฉากสิ้นปีที่ 1,300 จุด

ทั้งนี้ แนะนำการลงทุนโค้งสุดท้าย  ซึ่งในวิกฤตย่อมมีโอกาส ปัจจัยบวกอยู่ที่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เนื่องจากโควิด-19 จะช่วยกระตุ้นให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เร็วขึ้น แนะนำเน้นเลือกซื้อหุ้นรายตัว ดังนี้

Core Portfolio ยังคงเน้นหุ้น defensive ที่มีคุณภาพสูง เช่น BAM, BDMS, CBG, EGCO และ GFPT

Tactical Portfolio เน้นหุ้นที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลกและวัฏจักรเศรษฐกิจในประเทศที่มีคุณภาพดี เช่น AP, PTT และ TOP

S-Curve Portfolio เน้นหุ้นขนาดเล็กที่มี story การเติบโตอย่างโดดเด่น และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น AUCT, IIG, PRIME, SVI, WICE และ ZIGA