ลุ้นครม. เคาะ โครงการ "คนละครึ่ง -เพิ่มเงินบัตรคนจน" 

28 ก.ย. 2563 | 20:30 น.

กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบ มาตรการ"คนละครึ่ง -เพิ่มเงินบัตรคนจน" 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (29ก.ย.63) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพิจารณา โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการเพิ่มวงเงินใน “บัตรคนจน” หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ 

 

ซึ่งทั้ง 2 มาตรการ เป็นชุดมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ หลังจากคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ได้พิจารณารายละเอียดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีวงเงิน 51,000 ล้านบาท และช่วยเหลือประชาชนให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นถึง 24 ล้านคน ประกอบด้วย 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โครงการ “คนละครึ่ง” เช็กอัพเดทล่าสุดได้ที่นี่

ต.ค.นี้ กระทรวงการคลัง จัดหนักจัดเต็ม โครงการคนละครึ่ง3,000 เติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1,500

คลังลั่น​ 29​ ก.ย.ชัดเจน "โครงการคนละครึ่ง - เพิ่มเงินบัตรคนจน"

บัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 ต.ค.รับเงินเพิ่ม 500

 

1.โครงการคนละครึ่ง โดยแจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชนทั่วไปจำนวน 10 ล้านคน 

 

2.โครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน อีกคนละ 500 บาท/เดือน เป็นคนละ 700-800 บาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.63 หรือเท่ากับเพิ่มให้รวมคนละ 1,500 บาท

ทั้งนี้สำหรับโครงการ "คนละครึ่ง" จะมีการเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 ซึ่งจะต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย เนื่องจากวัตถุประสงค์คือต้องการร้านของกินของใช้ เช่น ร้านโชห่วย หรือร้านธงฟ้า ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล เช่น ร้านสะดวกซื้อ รัฐบาลจะไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ

 

รายงานข่าวระบุว่า สำหรับมาตรการ “คนละครึ่ง” จะเปิดให้ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 10 ล้านคน ลงทะเบียนในช่วงกลางเดือนหน้า เพื่อรับสิทธิเงินช่วยเหลือซื้อสินค้าอื่นๆ คาดว่าน่าจะเป็นรายวัน วันละไม่เกิน 100 บาท รวมไม่เกินคนละ 3,000 บาท ใช้ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และรัฐบาลจะช่วยจ่ายเงินคนละครึ่ง

ส่วนร้านค้า โชห่วย หรือหาบเร่แผงลอย จะเปิดลงทะเบียนในช่วงต้นเดือนหน้า โดยต้องโหลดแอปฯ “ถุงเงิน” เพื่อสแกนรับเงินจากประชาชนที่ได้รับสิทธิ ซึ่งจะมีกระบวนการตรวจสอบคัดกรองอีกครั้ง 

 

ส่วนรายละเอียด ความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการทั้งหมดจะต้องรอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งหลังการประชุมจะมีการแถลงรายละเอียดอีกครั้ง