บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์’ หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรส เปิดช่วงราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ (IPO) ที่ 4.00-4.60 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 28-30 ก.ย. 63 ในราคุ้นละ 4.60 บาท พร้อมสำรวจความต้องการจองซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) เพื่อกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ส่วนนักลงทุนสถาบันจองซื้อวันที่ 1-2 และ 5 ต.ค. 63
นางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า NRF จะเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ ไอพีโอ (IPO) ไม่เกิน 340 ล้านหุ้น โดยกำหนดช่วงราคาเสนอขาย (Price Range) หุ้น IPO ที่ 4.00-4.60 บาทต่อหุ้น และเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อในวันที่ 28-30 กันยายน 2563 ที่ราคา 4.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุด
พร้อมกับทำการสำรวจความต้องการจองซื้อของนักลงทุนสถาบัน (Book Building) เพื่อกำหนดราคาเสนอขายสุดท้าย (Final Price) ซึ่งคาดว่า จะประกาศให้ทราบได้ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ซึ่งหากราคาเสนอขายสุดท้าย ต่ำกว่าราคาจองซื้อ จะดำเนินการคืนเงินจองซื้อแก่นักลงทุนรายย่อยต่อไป ส่วนนักลงทุนสถาบันจองซื้อในวันที่ 1-2 และ 5 ตุลาคม 2563 ที่ราคาเสนอขายสุดท้าย และคาดว่าจ ะนำหุ้น NRF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในกลางเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้ NRF มีทุนจดทะเบียน 1,421,040,400 บาท โดยเป็นทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 1,065,780,300 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 340 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25.08% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด แบ่งเป็นเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 290 ล้านหุ้น และเสนอขายหุ้นสามัญโดยผู้ถือหุ้นเดิมคือ บริษัท ดีพีเอ ฟันด์ เอส จำกัด จำนวนไม่เกิน 50 ล้านหุ้น
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตรายแรกของไทยที่เตรียมความพร้อมด้านการผลิต เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ในด้านอาหารเพื่อรองรับการก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตอาหารในระดับสากล และเป็นบริษัทฯ ที่มีรูปแบบพร้อมรองรับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการเติบโตสูงในอนาคต (Platform for Future Food) โดยมีมาตรฐานในกระบวนการผลิตเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ปัจจุบัน บริษัทฯ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงรสชั้นนำ และอาหารโปรตีนจากพืช โดยมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 SKUs และกว่า 500 สูตรอาหาร และจะนำเงินจากการระดมทุนส่วนหนึ่งไปชำระเงินกู้ยืมระยะยาวทั้งหมด ช่วยลดภาระดอกเบี้ย เสริมสภาพคล่องทางการเงิน และรองรับการลงทุนโครงการในอนาคต และที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 603.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 41.1 ล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 517.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 16.3 ล้านบาท จากการลงทุนขยายฐานการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มากขึ้น และการส่งออกที่เพิ่มขึ้นทุกตลาด ทั้งอเมริกา ยุโรป โอเชียเนีย และเอเชีย
รวมถึงบริหารต้นทุนการผลิตและการดำเนินการที่ดีขึ้น และยังเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สยามราชธานี จ่อขายไอพีโอ 85 ล้านหุ้น