“ไปรษณีย์ไทย” ผนึก “เอสเอ็มอี ดีแบงก์” ปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

21 ก.ย. 2563 | 04:41 น.

ไปรษณีย์ไทย สนับสนุนผู้ค้าออนไลน์เก็บเงินปลายทาง หรือ COD เพิ่มเงินหมุนเวียนในธุรกิจอี-คอมเมิรซ์ ที่มีอัตราการขยายตัวแบบก้าวกระโดด

นายพิษณุ วานิชผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจองค์กร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า  ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจต่างให้ความสนใจทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างกว้างขวาง ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มนี้มีความจำเป็นต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการให้มีความต่อเนื่อง แต่บางรายก็ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนนั้นได้ เนื่องจากขาดเอกสาร/หลักฐานสำคัญในการใช้ประกอบการขอสินเชื่อ ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยจึงได้ร่วมมือกับ ธนาคารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ส่งของพัสดุเก็บเงินปลายทาง หรือ COD ของไปรษณีย์ไทยสามารถขอสินเชื่อได้ เพียงนำประวัติการซื้อขายผ่านแอปพลิเคชัน wallet@POST ที่แสดงให้เห็นถึงการหมุนเวียนของรายได้ มาเป็นหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อนี้

สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะขอสินเชื่อโครงการนี้ นอกจากจะต้องเป็นลูกค้าที่ใช้บริการเก็บเงินปลายทาง หรือ COD ของไปรษณีย์ไทยแล้ว จะต้องมีใบทะเบียนพาณิชย์หรือใบอนุญาตประกอบกิจการในกรณีเป็นบุคคลธรรมดา และกรณีเป็นนิติบุคคลจะต้องมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นไทยมากกว่า 50 %  รวมทั้ง มีประวัติการใช้บริการ COD ของไปรษณีย์ไทยไม่น้อยกว่า 60 วัน มาแสดงประกอบการขอรับสินเชื่อของ SME D Bank และทางธนาคารจะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าแต่ละราย

ขณะที่นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดการค้าขายออนไลน์ หรือธุรกิจ e-Commerce ที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากกำลังซื้อของประชาชนที่สั่งซื้อมากขึ้นในยุค New Normal หรือวิถีชีวิตใหม่ โดยความร่วมมือของ 2 หน่วยงานในครั้งนี้ จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ด้านนางอุบลรัตน์ ค่าแพง ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้รับผิดชอบสายงานพัฒนาผู้ประกอบการและลูกค้าสัมพันธ์ ธนาคารธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า จากนโยบาย “ความรู้คู่ทุน” ของธนาคาร ผ่านความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารได้จัดเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับความร่วมมือดังกล่าว เช่น “สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan)” วงเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ปรับปรุง ตลอดจนสำรองเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบธุรกิจ ผ่อนนานสูงสุด 7 ปีบุคคลธรรมดาอัตราดอกเบี้ย 4.875% ต่อปี 3 ปีแรกและนิติบุคคล อัตราดอกเบี้ย  2.875% ต่อปี 3 ปีแรก ลูกค้าผู้สนใจสามารถแสดงความจำนงกรอกข้อมูลเพื่อสมัครขอสินเชื่อได้ที่ https://bit.ly/3ksVAQE หรือผ่าน QR Code อย่างสะดวกสบาย และจะได้รับการติดต่อจากธนาคารภายใน 24 ชม.ถือเป็นมิติใหม่ในการบูรณาการร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทั้งสองซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้รับบริการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357 ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร