นักวิชาการมอง ม็อบต่อเวลา “เรียกแขก” จับตาสัปดาห์หน้า

20 ก.ย. 2563 | 08:31 น.

นักวิชาการมอง กลุ่มแนวร่วมสลายชุมนุมต่อเวลา “เรียกแขก” สร้างแรงกดดันรัฐบาล นัดอีกครั้ง 24 ก.ย.เชื่อระยะสั้นยังไม่กระทบเศรษฐกิจ

กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประกาศนัดชุมนุมอีกครั้ง  24 ก.ย. นี้ เปิดโอกาสสร้างโมเมนตัมเรียกแขกสร้างแรงกดดันรัฐบาล  จับมวลชนเพิ่มสัปดาห์หน้า ขึ้นกับผู้นำจะเดินยุทธศาสตร์รับม็อบ แต่ใช้กลไกก้าวล่วงเลยเถิด อาจเกิดแรงต้าน ยันระยะสั้นยังเบาใจไม่กระทบเศรษฐกิจ

 

ตามที่ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม  ประกาศสลายการชุมนุมที่สนามหลวง ภายหลังยื่นหนังสือเรียกร้องในการปฏิรูปสถาบันฯ โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา  ผบช.น. เป็นผู้มารับหนังสือ และได้มีการกำหนดจะนัดชุมนุมอีกครั้งที่สภาผู้แทนราษฎรแห่งใหม่ แยกเกียกกาย ในวันที่ 24 กันยายน 2563

 

รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ และการเมืองกล่าวว่า แนวทางดำเนินกลไกของแนวร่วม(ม็อบ)ครั้งนี้ เป็นลักษณะค่อยๆ สร้างแรงกดดันคล้ายในฮ่องกง เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า ม็อบครั้งนี้ไม่มีผู้นำและมีความนิ่มนวลมากขึ้น

นักวิชาการมอง ม็อบต่อเวลา “เรียกแขก” จับตาสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการที่จะสร้างโมเมนตัมและเปิดโอกาสสร้างมวลชนให้มาเข้าร่วมชุมนุมในวงกว้าง  ดังนั้น การที่ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 24 กันยายนนั้น เพื่อเชิญชวนคนให้มามากขึ้น  ซึ่งต้องดูว่าในสัปดาห์หน้าจะเป็นอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม  การเดินยุทธศาสตร์ดังกล่าว จึงขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะจัดครั้งต่อไป จะรักษาจำนวนคนได้เพิ่มขึ้นขนาดไหนและแรงกดดันขนาดไหน หรือจำนวนคนที่จะเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างไร แต่การประกาศสลายชุมนุมเป็นการเปิดโอกาสให้ม็อบมีเวลาสร้างโมเมนตัม หากสามารถสร้างโมเมนตัมได้แรง ต่อไปก็จะนำไปสู่การปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ(รธน.)

 

ซึ่งอาจจะเป็น 2แบบคือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา 272  และอาจจะปรับแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ  โดยผลจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสองแนวทางอาจจะแบ่งเป็น 2 ปัจจัยคือ เกิดการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)เข้ามาทำหน้าที่ หรือเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีโดยมีนายกรัฐมนตรีชั่วคราวเข้ามาแทน และแนวทางที่ 3 ซึ่งไม่น่าจะเกิด เพราะม็อบเริ่มใช้กลไกก้าวล่วงเลยเถิดอาจเกิดแรงต้าน ซึ่งวิธีนี้ยังน้อย

 

 “ตอนนี้ม็อบหยุดก่อน เพื่อดูว่าจะแก้รธน.หรือไม่  รออีก 1-2 สัปดาห์ดูว่า รัฐบาลจะทำอะไรไหม ขณะที่เศรษฐกิจไม่ถูกกระทบ คือ เป็นผลทางเศรษฐกิจเชิงจิตวิทยาเท่านั้น   เพราะเศรษฐกิจจะกระทบจากโควิดมากกว่า”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นักวิชาการ เชื่อ ม๊อบจบเร็ว ไม่กระทบเศรษฐกิจ

5แสนราย อ่วม! ชวดปันผลแบงก์

ผ่านแล้ว! งบปี64 3.2ล้านล้าน ฉลุย