โบรกชี้ CRC ควบ COL หนุนราคาหุ้นฟื้น

16 ก.ย. 2563 | 08:35 น.

โบรกเผย CRC เข้าซื้อหุ้น COL รวมมูลค่า 12,160 ล้านบาท ก่อนเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นดีลที่ดี เสริมพอร์ตธุรกิจกลุ่มเซ็นทรัลหลากหลาย ชี้แนวโน้มกิจการเติบโตต่อเนื่อง หนุนราคาหุ้นสูงขึ้น

ช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของ บริษัทจดทะเบียน (บจ.)ทำให้ต้องมีการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยทางเลือกในการเข้าซื้อกิจการ หรือ ควบรวมกิจการ (M&A) เป็นตัวช่วยในการเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจและราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี 

 

ล่าสุดหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มค้าปลีกอย่าง บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นหุ้น ไอพีโอ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลัก ทรัพย์ ด้วยมูลค่ามาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอมากกว่า 2 แสนล้านบาทและยังเป็นหุ้นไอพีโอกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่มีมูลค่าระดมทุนสูงที่สุดทั่วโลกนับตั้งแต่ปี 2550 ได้ประกาศเข้าซื้อหุ้นบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) (COL) ผู้บริหาร ออฟฟิศเมท และ บีทูเอส และผู้ทำคำเสนอซื้อจะรับซื้อหุ้น COL จำนวน 640 ล้านหุ้น ในราคาเสนอซื้อหุ้นละ 19.00 บาท รวมมูลค่า 12,160 ล้านบาท

 

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า CRC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติให้บริษัท พีบีเอชดี จำกัด บริษัทย่อย เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อกิจการ COL เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์จากการเป็นบริษัทจดทะเบียน 

โบรกชี้ CRC ควบ COL หนุนราคาหุ้นฟื้น

ทั้งนี้ได้มีการทำบันทึกความเข้าใจการซื้อกิจการกับ บริษัท โฮลด์ โคลล์ จำกัด (Hold COL) และ นายวรวุฒิ อุ่นใจ ซึ่งตกลงที่จะตอบรับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ ขายหุ้น COL ที่ถืออยู่ โดย Hold COL ถือหุ้นจำนวน 225.704 ล้านหุ้น หรือ 35.27% และ นายวรวุฒิ ถือหุ้นจำนวน 57.577 ล้านหุ้น หรือ 9% อีกทั้งนายวรวุฒิ ตกลงเพิ่มเติมว่าจะดำเนินการให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นขายหุ้นอีกจำนวน 12 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.87%

 

อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้การประกอบธุรกิจค้าปลีก สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการต่อยอดความเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Multi-format & Multi-category) ผ่านการเข้าซื้อกิจการ (Inorganic Growth) ช่วยขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจ และกลุ่มสินค้าเฉพาะทางที่จำหน่ายเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ สื่อบันเทิง และสินค้าไลฟ์สไตล์ได้ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ในปัจจุบันยังมีสัดส่วนน้อย

 

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเข้าซื้อกิจการ COL ของ CRC ถือว่า มีความน่าสนใจและเป็นดีลที่ดี เพราะการรวมธุรกิจในพอร์ตที่มีความแตกต่าง ทำให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการเข้าซื้อหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (พีอี) ที่ตํ่ากว่า จะช่วยหนุนให้มูลค่าหุ้นสูงขึ้น โดยก่อนที่จะถูกกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หุ้น CRC มีพีอีอยู่ที่ประมาณ 25-30 เท่า ส่วน COL อยู่ที่ตํ่ากว่า 20 เท่า

 

“มองว่าเป็นโอกาสของกลุ่มเซ็นทรัลที่จะเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน COL จากที่เคยถือในจำนวนจำกัด ผ่าน Hold COL รวมถึงเป็นการวางมือของนายวรวุฒิที่ลดสัดส่วนการถือหุ้นลง เพื่อเตรียมเข้าสู่การเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ ธุรกิจของ COL มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่องหลังจากยกเลิกการทำออนไลน์ ทั้งเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน E-Book และโลจิสติกส์ที่มีการเติบโตสูง ทำให้เป็นผลดีต่อ CRC ที่ยังไม่มีธุรกิจดังกล่าว”

 

บล.เคทีบี(ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวก คาดว่าจะเกิด Synergy ระหว่างธุรกิจ offline ของ CRC กับ online ของ COL โดย COL มีกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 733 ล้านบาท ส่วนปี 2562 อยู่ที่ 762 ล้านบาท และครึ่งปีแรกปี 2563 มีกำไรสุทธิที่ 134 ล้านบาท ลดลง 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดรุนแรง ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2564 หลังสถานการณ์คลี่คลาย 

 

ขณะที่การระดมเงินทุนในการทำ tender offer คาดจะใช้เงินสดในมือและกู้จากธนาคารเพียงบางส่วน ปัจจุบัน CRC มีหนี้สินต่อทุน (ดีอี) อยู่ที่ 0.8 เท่า ทั้งนี้ ประเมินว่าหากการทำ tender offer สำเร็จ จะช่วยเพิ่มรายได้ของ CRC ที่ 5% และเพิ่มกำไรสุทธิที่ 10% อิงรายได้จาก COL ที่ 10,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 700 ล้านบาท 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,610 วันที่ 17 - 19 กันยายน พ.ศ. 2563