ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เคยทำประกันชีวิตไว้แล้ว หรือผู้รับผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือทายาทของผู้เอาประกันภัยมีสิทธิ์ได้รับตามกรมธรรม์ แต่มิได้เรียกร้องจากบริษัทจนล่วงพ้นอายุความ 10 ปี สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์ https://lifeif.appspot.com/enquiry
ปัจจุบันมีผู้เอาประกันชีวิตที่มีสิทธิในเงินนี้ มีมากกว่า 9 แสนราย เป็นเงินรวมกว่า 1,200 ล้านบาท (รายละตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักแสนบาท ) โดยการตรวจสอบสิทธิ์เพียงกรอกเลขบัตรประชาชน ชื่อผู้เอาประกันชีวิตและนามสกุลผู้เอาประกันชีวิตเท่านั้น ซึ่งมีข้อมูลของผู้เอาประกันชีวิต ที่มีสิทธิในเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความจากทุกบริษัทประกันชีวิต
หากตรวจสอบพบว่าเป็นผู้มีสิทธิ สามารถยื่นคำขอรับเงินคืนจากกองทุนประกันชีวิตได้ทันที รายละเอียดแบบฟอร์มและเอกสารการขอรับเงินดูได้จากเว็บไซต์กองทุนประกันชีวิต www.lifeif.or.th สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร 02-791-1333
สำหรับ"เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ" คือ เงินที่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ หรือทายาทของผู้เอาประกันมีสิทธิ์ได้รับตามกรมธรรม์ แต่มิได้มีการเรียกร้องจากบริษัทจนพ้นอายุความ ซึ่งอายุความดังกล่าว คือ10 ปี นับแต่วันที่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ หรือทายาทของผู้เอาประกันมีสิทธิได้รับเงิน
โดยเมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 10 ปี กฎหมายกำหนดให้บริษัทประกันชีวิต ต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนประกันชีวิต
ส่วนสาเหตุที่ผู้เอาประกันชีวิต ไม่รู้ว่าตนเองมีสิทธิ เลยไม่ได้ขอรับเงินตามความคุ้มครองกรมธรรม์จากบริษัท จนทำให้เป็นเงินล่วงพ้นอายุความตามที่กฎหมายกำหนด หลักๆ มาจาก
1. บริษัทไม่สามารถติดต่อผู้เอาประกันชีวิตได้ เนื่องจากผู้เอาประกันชีวิตย้ายที่อยู่แล้วไม่ได้แจ้งบริษัท
2.ผู้เอาประกันชีวิตบางรายเสียชีวิตโดยมิเคยแจ้งให้ทายาท หรือผู้รับประโยชน์ทราบว่าตนได้ทำประกันชีวิตไว้ ทำให้ผู้รับประโยชน์หรือทายาทของผู้เอาประกัน มิได้เรียกร้องเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์
3.ผู้เอาประกันชีวิตบางรายไม่ส่งเบี้ยประกันต่อ ทำให้กรมธรรม์ขาดความคุ้มครอง แต่ไม่ทราบว่ากรมธรรม์มีมูลค่าเงินสดเหลืออยู่
4.ผู้เอาประกัน ได้รับเช็คจากบริษัทแล้ว แต่มิได้นำเช็คไปขึ้นเงินจนลืม