ประมูลรถของกลาง ทำรายได้เข้ารัฐ291 ล้านบาท

10 ส.ค. 2563 | 10:13 น.

กรมศุลฯ เผยผลประมูลรถของกลาง ขายได้ 165 คัน จาก 201 คัน ทำรายได้เข้ารัฐ 291.02 ล้านบาท

วันเสาร์ที่ผ่านมา(18 สิงห.ค.)  กรมศุลกากร ได้ ประมูลรถของกลาง ประจำปี 2563 โดยวิธีการประมูลด้วยวาจา (ยกป้ายหน้าลาน) จำนวน 201 คัน หลังจากเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดูสภาพรถยนต์ของกลางตั้งแต่วันที่ 5-7 สิงหาคม และการประมูลในปีนี้จะมีความพิเศษ ด้วยการเพิ่มระบบการประมูลแบบออนไลน์เข้ามา ซึ่งจะตอบโจทย์สำหรับผู้ต้องการความสะดวกในการประมูลที่ไม่ต้องเดินทางมาที่กรมศุลกากร อยู่ที่ไหนก็สามารถประมูลรถได้ ปรากฏว่า สามารถสร้างรายได้ข้ารัฐกว่า 291 ล้านบาท

 

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การประมูลรถของกลาง มีประชาชนสนใจเข้าร่วมการประมูลเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมาย ทำให้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี โดยสามารถขายทอดตลาดรถของกลางได้ 165 คัน จากทั้งหมด 201 คัน รวมรายได้เข้ารัฐ 291.02 ล้านบาท ส่วนรถที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในครั้งนี้ กรมศุลฯ จะเก็บรักษาไว้ เพื่อทำการประมูลในครั้งต่อไป

ประมูลรถของกลาง ทำรายได้เข้ารัฐ291 ล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมศุลฯจัดประมูลรถของกลางโกยรายได้กว่า  300 ล้าน

ประมูลรถกรมศุลกากร เช็ครถ-ราคา ขั้นตอนลงทะเบียน

เช็กที่นี่ ประมูลรถของกลางที่กรมศุลกากร

สำหรับรถยนต์ของกลางที่มีผู้ประมูลในราคาสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ

1. รถยนต์ยี่ห้อ FERRARI รุ่น CALIFORNIA T ปี 2015 สี แดง เปิดประมูลในราคา 10.31 ล้านบาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 12.7 ล้านบาท

2. รถยนต์ยี่ห้อ FERRARI รุ่น TESTAROSSA ปี 1994 สี แดง เปิดประมูลในราคา 1.95 ล้านบาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 11 ล้านบาท

3. รถยนต์ยี่ห้อ BENTLEY รุ่น CONTINENTAL GT ปี 2013 สีเทา เปิดประมูลในราคา 5.39 ล้านบาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 9 ล้านบาท

ส่วนของรถจักรยานยนต์ของกลางที่มีผู้ประมูลในราคาสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่

1. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ BMW รุ่น R69 S ปี 1968 สีดำ เปิดประมูลในราคา 250,000 บาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 1.5 ล้านบาท

2. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ LAMBRETTA สีขาว-แดง เปิดประมูลในราคา 80,000 บาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 910,000 บาท

3. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ LAMBRETTA สีเทา เปิดประมูลในราคา 50,000 บาท สามารถจำหน่ายได้ในราคา 810,000 บาท

 

“ผู้ชนะการประมูลต้องชำระเงินค่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ให้ครบเต็มจำนวนที่ประมูลได้ต่อกรมศุลกากร ภายในเวลา 16.30 น. ของวันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ที่อาคาร 7 ส่วนของกลาง กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร”

 

ที่มา: กรมศุลกากร