จากรายงานผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) งวดไตรมาส 2 และครึ่งปี 2563 พบว่า ธนาคารที่มีส่วนแบ่งการตลาดใน สินเชื่อเช้าซื้อรถยนต์ 3 รายแรกคือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ต่างมียอดสินเชื่อเช่าซื้อคงค้างงวด 6 เดือนลดลงทั้งสิ้น ยกเว้นธนาคาร กรุงศรีอยุธยา
ทั้งนี้จากงวดครึ่งปี 2563 พบว่า ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อ 4.27 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.68% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 3.90 แสนล้านบาท ส่วนธนาคารทหารไทยเป็นพอร์ตที่รับโอนมาจากธนาคารธนชาตหลังรวมกิจการ จำนวน 4.09 แสนล้านบาท และไทยพาณิชย์ มียอดคงค้างรวม 2.18 แสนล้านบาท ลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 2.19 แสนล้านบาท จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก่อนโควิด แต่เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาส 1/2563 มาอยู่ที่ 2.13 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากพักชำระหนี้ รวมทั้งความต้องการสินเชื่อใหม่และสินเชื่อรถแลกเงิน
ด้านธนาคารทิสโก้ มียอดคงค้าง 1.29 แสนล้านบาท ลดลง 7.87% จากช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 1.41แสนล้านบาท และธนาคารเกียรตินาคิ มียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อ 1.14 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1.05 แสนล้านบาท โดยมาจากยอดสินเชื่อรถยนต์ใหม่และนถยนต์ใช้แล้ว
เอกสารเผยแพร่ของทิสโก้ระบุว่า ผลจากการกระบาดของโควิดซํ้าเติมภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก่อนหน้า ให้มีแนวโน้มหดมากขึ้น ส่งผลต่อกำลังซื้อในประเทศสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ใหม่ที่หดตัวในช่วงครึ่งปีแรก 2563 แม้ความต้องการสินเชื่อยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ด้วยความเสี่ยงที่สูงขึ้นและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน สถาบันการเงินจึงระมัดระวังและเข้มงวดมากขึ้นระหว่างรอดูความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ช่วงครึ่งแรกปี 2563 กรุงศรี ออโต้ มียอดสินเชื่อใหม่ 8.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 21% โดยอัตราการปรับตัวลดลงอยู่ในระดับตํ่ากว่าตลาด ส่วนเป้าหมายของปี 2563 ยังอยู่ในระหว่างประเมินสถานการณ์ของเศรษฐกิจและตลาดเช่าซื้อ
หน้า 11 ฉบับที่ 3,596 วันที่ 30 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563