ต่างชาติทิ้งบอนด์ไทยครึ่งปี 1.08 แสนล้านบาท

09 ก.ค. 2563 | 09:36 น.

ThaiBMA เผยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยครึ่งปีแรก 108,460 ล้านบาท ถือครองลดลง 10.45% มองครึ่งปีหลังเอกชนแห่ออกหุ้นกู้ คาดปีนี้แตะ 800,000 ล้านบาท

นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ครึ่งแรกปี 2563 จำนวน 108,460 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิทั้งในตราสารหนี้ระยะยาวอยู่ที่ 61,075 ล้านบาท และตราสารหนี้ระยะสั้นอยู่ที่ 47,390 ล้านบาท ทำให้ ณ สิ้นไตรมาส 2 นี้ นักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยรวมทั้งสิ้น 811,070 ล้านบาท หรือ 9.07% ของมูลค่าคงค้างพันธบัตรรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งลดลงจาก 10.45% เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ในเดือนมิถุยายน นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันกลับมาซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยอีกครั้ง หลังจากขายสุทธิอย่างต่อเนื่องตลอด 5 เดือนแรกของปี

อย่างไรก็ตาม Bond Yield ในช่วงครึ่งปีแรกค่อนข้างผันผวน เนื่องจากความกังวลของนักลงทุนถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจ ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในช่วงกลางเดือนมีนาคมปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากการเทขายสินทรัพย์ของนักลงทุน ก่อนจะทยอยปรับลดลงในช่วงไตรมาส 2 ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงในทุกรุ่นอายุโดย Bond yield อายุ 2 ปี ปรับลดลง 69 bps. จากต้นปีมาอยู่ที่ระดับ 0.45% และ 10 ปี ลดลง 18 bps. มาอยู่ที่ 1.28% ณ สิ้นไตรมาส 2 เป็นการทำระดับต่ำสุดใหม่ของรุ่นอายุ 2 ปี

"แม้เศรษฐกิจไทยจะเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกันกับทั่วโลก ตลาดตราสารหนี้ไทยในครึ่งแรกปี 2563 นี้ยังสามารถขยายตัวได้เล็กน้อยที่ 1.25% มีมูลค่าคงค้างรวมเท่ากับ 13.69 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาล ด้านปริมาณการซื้อขายในตลาดรองก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันที่ 5% จากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ภาคเอกชนต้องชะลอการเสนอขายหุ้นกู้ออกไป ทำให้การออกหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวในครึ่งปีแรกนี้จึงมีมูลค่าลดลง 22% จากค่าเฉลี่ยการออกในครึ่งแรกของ 5 ปีย้อนหลัง แต่หากเทียบกับการออกในช่วงเวลาเดียวกับปีที่แล้วจะลดลงถึง 43% เนื่องจากปีที่แล้วถือเป็นปีที่มียอดการออกสูงเป็นประวัติการณ์ มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชนจึงหดตัวลงเล็กน้อยราว 0.68% จากสิ้นปีที่แล้ว"

สำหรับตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 คาดว่า บริษัทเอกชนไทยยังคงมีความต้องการระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ระยะยาวเพื่อเตรียมสภาพคล่องรองรับสถานการณ์ที่อาจไม่แน่นอน โดยคาดว่าทั้งปีจะมีมูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาวที่ 800,000 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากประมาณการเดิมที่850,000 ล้านบาท และเชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำนี้ต่อไปจนถึงสิ้นปี โดยอาจใช้เครื่องมือนโยบายการเงินอื่นเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ทำให้มีโอกาสที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะขยับต่ำลงทั้งเส้นแต่อยู่ในกรอบจำกัดซึ่งอาจมีความผันผวนได้ในบางช่วงหากเกิดเหตุการณ์ความกังวลใหม่ๆ ในตลาด เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน