ดาวโจนส์ ปิดร่วงเกือบ 400 จุด จากแรงเทขายทำกำไร

07 ก.ค. 2563 | 23:38 น.

ดาวโจนส์ปิดร่วง 396.85 จุด หรือ -1.51% จากแรงเทขายทำกำไร และวิตกโควิดฉุดเศรษฐกิจซบ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,145.32 จุด ลดลง 34.40 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,343.89 จุด ลดลง 89.76 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 400 จุดเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ รวมทั้งการแสดงความเห็นในด้านลบจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)    

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,890.18 จุด ลดลง 396.85 จุด หรือ -1.51% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,145.32 จุด ลดลง 34.40 จุด หรือ -1.08% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,343.89 จุด ลดลง 89.76 จุด หรือ -0.86%

นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันจันทร์ และดัชนี S&P500 ทำสถิติปิดในแดนบวกยาวนานถึง 5 วัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้สภาคองเกรสจำกัดวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่เอาไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่านั้น
          

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวได้ส่งสัญญาณการควบคุมวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 แม้ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุหลัก 3 ล้านรายแล้ว ขณะที่รัฐแอริโซา แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และรัฐอื่นๆของสหรัฐต่างก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

นักวิเคราะห์จากบริษัทบีเอ็มโอ โกลบอล แอสเซท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า คำให้สัมภาษณ์ของนายเพนซ์ส่งผลให้ตลาดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ และสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า นโยบายของรัฐบาลเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาด
          

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการแสดงมุมมองในด้านลบของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนางแมรี ดาลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ต่างก็มีความเห็นในทางเดียวกันว่า แม้อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 11.1% ในเดือนมิ.ย. แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก และเฟดยังคงต้องดำเนินการเพื่อทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงอีก ขณะที่นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา เตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อภาวะการซื้อขายเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 401,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราการเปิดรับสมัครงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.9% จากระดับ 3.7% ในเดือนเม.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.