อ่าน ! อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า

04 ก.ค. 2563 | 02:30 น.

คาดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแนวโน้ม “แข็ง” ดัชนีหุ้น ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,385 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,360 และ 1,340 จุด ตามลำดับ-จับตา 3ปัจจัย “มาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ-กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม -สถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศ และปมขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีนและนานาประเทศ

กสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่ 30.80-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ –คาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,385 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,360 และ 1,340 จุด ตามลำดับ -ติดตามมาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
เมื่อวันศุกร์ ( 3 ก.ค.2563) อัตราแลกเปลี่ยนค่า เงินบาทปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 31.13 “อ่อนค่าลง” เมื่อ เทียบกับระดับ 30.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ (เมื่อ วันที่ 26 มิ.ย.) โดยการอ่อนค่าของเงินบาท สอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินเอเชียบางส่วน ประกอบกับเงินบาทเริ่มทยอยอ่อนค่าลง  หลังธปท. ส่งสัญญาณว่า การแข็งค่าของเงินบาทเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีมาตรการเข้ามาดูแล ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อคืนของนักลงทุน

อ่าน ! อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท  ระหว่างวันที่ 6-10 ก.ค. 2563  จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 30.80-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19(COVID-19) ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ตลอดจนปมขัดแย้งในประเด็นฮ่องกงระหว่างจีน และนานาประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมิ.ย. ของจีน และรายงานนโยบายการเงินซึ่งจะมีการเปิดเผยมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยของธปท. ด้วยเช่นกัน
 

ด้านตลาดหุ้นไทย( 3ก.ค.2563) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,372.27 จุด เพิ่มขึ้น 3.15% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 63,299.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.53% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ขยับขึ้น 2.39% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 303.04 จุด      
สำหรับระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคมนั้น  บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,385 และ 1,400 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,360 และ 1,340 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม สถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) รวมถึงประด็นขัดแย้งเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ของยูโรโซน รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ของจีน

อ่าน ! อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทและดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า