ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) ขานรับตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ปีนี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 2.76 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 8.75 ล้านตำแหน่ง และดีกว่าในเดือนเม.ย.ที่ตัวเลขจ้างงานทรุดตัวลง 19.6 ล้านตำแหน่ง ซึ่งเป็นภาวะการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลในปี 2545
นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ อนาลิติกส์ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐในเดือนพ.ค.อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานได้ผ่านภาวะย่ำแย่ที่สุดจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้ว ยกเว้นว่าจะเจอการแพร่ระบาดรอบสอง หรือมีการใช้นโยบายที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง ส่วนข่าวร้ายคือ การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างล่าช้า จนกว่าจะมีการคันพบวัคซีนและยารักษาโควิด-19 ที่จะมีการกระจาย และมีการใช้ในวงกว้าง
ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังจากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยนำมาใช้อย่างเข้มงวดในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนัก นอกจากนี้ การชุมนุมประท้วงในสหรัฐที่เริ่มเป็นไปอย่างสงบ ยังเป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเช่นกัน