หุ้นเด้งรับคลายล็อกเฟส3

04 มิ.ย. 2563 | 00:00 น.

FETCO เผยนักลงทุนคาดหวัง การเติบโตเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงผลประกอบการบจ.ไตรมาส 2 ชี้หุ้นเดือนพฤษภาคมได้ปัจจัยบวกจากนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจภาครัฐ ด้านบล.ทิสโก้ มองคลายล็อกดาวน์ เฟส 3 หนุนเศรษฐกิจฟื้นและกำไรบจ.ครึ่งปีหลัง จับตาตัวช่วยหมดแรงในเดือนมิถุนายนนี้ 

การลงทุนในตลาดหุ้นไทยเดือนพฤษภาคม 2563 เริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง(ล็อกดาวน์) จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆที่ตามมา ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายอย่าง กลับมาเริ่มดำเนินการอีกครั้ง ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นแม้จะยังผันผวน แต่สามารถปิดบวก สวนทางกระแส Sell in May ได้ โดยดัชนีหุ้นไทยปิดสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 1,342.85 จุด เพิ่มขึ้น 41.19 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 3.16% 

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าหรือ เดือนสิงหาคม 2563 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวที่ระดับ 96.93 โดยปัจจัยหนุนมาจากความคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจ ในประเทศ,นโยบายภาครัฐ,ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ไตรมาส 2 และการคลี่คลายของโรคระบาดและการค้นพบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะที่ปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นคือ ความกังวลต่อผลประกอบการบจ.,การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและภาคการท่องเที่ยวและความกังวล หากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบสอง

หุ้นเด้งรับคลายล็อกเฟส3

อย่างไรก็ตามช่วงเดือนพฤษภาคม ดัชนีหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน จากปัจจัยในประเทศที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบกรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการระบาดของไวรัสคลี่คลายวงเงิน 400,000 ล้านบาทและปัจจัยนอกประเทศจากการประกาศมาตรการคิวอี ทั้งในสหรัฐและยุโรป ส่งผลให้เงินลงทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่มากขึ้น โดยช่วงครึ่งเดือนแรก ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,257-1,299 จุด จากนั้นดัชนีปรับตัวในทิศทางที่เพิ่มขึ้น หลังจากมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ซึ่งช่วยหนุนการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ 

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยกล่าวว่า คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี และ 10 ปีมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงในอีก 11 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากกนง. เพิ่งปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งก่อนและอาจมีการประเมินสภาพเศรษฐกิจ หลังการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนอาจปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการออกพันธบัตรของภาครัฐเพื่อใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัดกล่าว การคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ช่วงต้นเดือนนี้ จะเป็นผลดีต่อเนื่องต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำไรบจ.ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 1,360 จุด ซึ่งเป็นกรณีดีที่ได้ประเมินไว้แล้วหลังประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ดีมาก โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเดือนที่แล้วเฉลี่ยเพียง 4 คนต่อวัน เทียบกับค่าเฉลี่ย 43 คนต่อวันในเดือนเมษายน รวมถึงยังมีความหวังเกี่ยวกับวัคซีนที่มีความคืบหน้า

ทั้งนี้ มองว่า ตัวช่วยต่างๆที่เคยประคับประคองสถานการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้จะเริ่มสิ้นสุดลงในเดือนมิถุนายนเช่น การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่คาดว่าจะไม่ต่ออายุอีก,การปิดน่านฟ้า,เม็ดเงินไหลเข้าจากกองทุนเพื่อการออมระยะยาวแบบพิเศษ(SSFX)และมาตรการชั่วคราวของตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ที่ออกมาควบคุมความผันผวนของตลาด หากไม่มีการขยายเวลาการใช้มาตรการออกไป โดยเฉพาะการปรับเกณฑ์การขายชอร์ต(Uptick Rule)ที่ทำให้มูลค่าการขายชอร์ตลดลงเหลือเพียง 1% ของมูลค่าซื้อขายรวมของตลาดหรือประมาณ 10,000 ล้านบาทต้นๆในเดือนพฤษภาคมเทียบกับมูลค่าการขายชอร์ตเฉลี่ยในปี 2562 ที่อยู่ที่ 5% ของมูลค่าซื้อขายรวมของตลาดหรือประมาณ 55,000 ล้านบาทต่อเดือน 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,580 วันที่ 4 - 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563