ธอส.ปล่อยกู้บ้าน'เราไม่ทิ้งกัน' ดอกเบี้ยต่ำ1.99% เช็กสิทธิ์ที่นี่

01 มิ.ย. 2563 | 23:30 น.

​​​​​​​เช็กสิทธิ์ กู้ซื้อบ้าน โครงการธอส. “เราไม่ทิ้งกัน”  ดอกเบี้ยต่ำ 1.99%  วงเงินสูงสุด 3 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ซื้อสิ่งอำนวยความสะดวก

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดให้ประชาชนที่ได้สิทธิ์รับเงินเยียวยา 5,000 บาท “เราไม่ทิ้งกัน” ที่ปัจจุบันมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวนกว่า 15 ล้านราย และครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรการช่วยเหลือจากปัญหาโควิด-19 มากกว่า 4 แสนราย ยื่นคำขอกู้ซื้อบ้านและทำนิติกรรม โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน ที่สาขาของธนาคารธอส. ทั่วประเทศ

ธอส.กำหนดวงเงินการปล่อยสินเชื่อ โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน 20,000 ล้านบาท โดยผู้กู้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ต่อปี นานถึง 2 ปีแรก ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี ปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ย MRR-2% ต่อปี และปีที่ 5 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้

ธอส.ขยายเวลาช่วยเหลือลูกค้าถึง 31 ต.ค.63

กรณีลูกค้าสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR–1.00% ต่อปี และกรณีรายย่อยทั่วไป อัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.150% ต่อปี)

การขอเงินกู้ โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน สามารถกู้เพื่อซื้อบ้าน ครอบคลุมทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับการขอกู้ตามวัตถุประสงค์หลัก ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย และซ่อมแซม วงเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลักประกัน

ธอส.ปล่อยกู้บ้าน'เราไม่ทิ้งกัน' ดอกเบี้ยต่ำ1.99% เช็กสิทธิ์ที่นี่

รวมถึงได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ คิดค่าประเมินราคาหลักประกันในอัตราพิเศษ และให้ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 ธันวาคม 2563

นายกมลภพ วีระพละ รองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่ามาตรการที่ออกมาถือเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ต้องการมีบ้านเป็นอย่างมาก ธอส. จึงได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1.99% ต่อปี ถือเป็นการแบ่งเบาภาระในการผ่อนชำระของลูกค้าโดยตรง อาทิ กรณีกู้ 1 ล้านบาท จะผ่อนชำระ 2 ปีแรกเพียง 3,300 บาทต่อเดือนเท่านั้น

นอกจากนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับวงเงินกู้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้มีบ้าน ธอส. จึงกำหนดสัดส่วนความสามารถชำระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio หรือ DSR) ในกรณีลูกค้ารายย่อยเพิ่มเป็นสูงสุดไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิต่อเดือน โดยถือเป็นโครงการที่ครอบคลุมทั้งคนในครอบครัวของผู้ที่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่ปัจจุบันมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวนกว่า 15 ล้านราย  และครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนเข้ามาตรการช่วยเหลือจากปัญหาโควิด-19 มากกว่า 4 แสนราย จึงเชื่อว่าโครงการบ้าน ธอส. คนไทยไม่ทิ้งกัน จะสนับสนุนให้ภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น” นายกมลภพ กล่าว

ที่มา: ธนาคารอาคารสงเคราะห์