“JCB” ลุยตลาดออนไลน์ เตรียมพลิกผนสู้โควิด -19

30 พ.ค. 2563 | 06:49 น.

“JCB” ปรับเกมสู้วิกฤตโควิด -19 ลุยตลาดออนไลน์ ลุยตลาด Food delivery หวังดันยอดโตทะลุ 400%สร้างฐานลูกค้าใหม่ พร้อมจับมือ Lasada ละ Shopee จัดโปรโมชั่นกระตุ้นกำลังการจับจ่าย เผย เตรียมปรับแผนตลาดใหม่ หลังโควิด-19 สงบ

บัตรเครดิต JCB มีการปรับทัพดึง มร.เรียว โมริตะเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ดูแลประเทศไทยเมื่อ 1 เมษายนที่ผ่านมา ปรับกลยุทธ์แก้เกมวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19  พร้อมเผยถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของภาพรวมตลาดบัตรเครดิต ส่งผลให้ JCB ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ บุกตลาดช้อปปิ้งออนไลน์และฟู้ดเดลิเวอรี่แทน ย้ำเป้าหมายการเติบโตในประเทศไทย กระตุ้นให้มีบัตรในตลาดเพิ่มขึ้นอีก 15% ภายในปี 2563

นายเรียว โมริตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีบี  อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตครึ่งปีแรก 2563 คาดว่ายอดใช้จ่ายโดยรวมจะหดตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก โดยเฉพาะในหมวดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันมองว่าพฤติกรรมการใช้เงินของผู้บริโภคก็มีการเปลี่ยนแปลง คือ ผู้บริโภคใช้เงินสดน้อยลง ให้ความสนใจกับระบบชำระเงินแบบลดการสัมผัส (Touchless/Contactless) มากขึ้น และ ใช้ระบบ QR ในการจ่ายเงินแทนการยื่นการ์ด

จากการเกิดวิกฤติโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลก ได้เห็นว่าคนอยู่บ้านกันเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภาพรวมการใช้จ่ายในบางกลุ่มธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าสนใจ เช่น ตลาดอีคอมเมิร์ซและกลุ่มฟู้ดเดลิเวอรี ที่เติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 100% ทาง JCB จึงมีการปรับแผนเพื่อออกมารองรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในส่วนนี้

นายนพดล คูห์วัฒนศิลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เจซีบี  อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ JCB จึงหันมาทำแคมเปญที่เกี่ยวกับฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น คือให้ส่วนลดหรือแคชแบ็คกับทางลูกค้าเป็นหลัก เพื่อเป็นการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าในช่วงที่ยากลำบากนี้ อีกทั้งยังเป็นการจูงใจให้ลูกค้าใช้ฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น
 

สิทธิพิเศษที่ลูกค้าบัตร JCB จะได้รับตอนนี้คือ Grab Food ลูกค้าสั่งซื้อ 300 บาท ได้รับสิทธิพิเศษส่วนลด 80 บาท ของ LINE MAN จะเป็นการสะสมยอดเมื่อลูกค้าใช้ในหนึ่งรอบเดือนเกิน 500 บาท จะได้แคชแบ็คหรือเงินเข้ากระเป๋า 100 บาท ส่งผลให้ยอดขายหมวดฟู้ดเดลิเวอรี่ของเราโตสูงกว่า 400%  และจำนวนผู้ใช้รายใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเทียบเท่า 300% เมื่อเทียบกับตัวเลขก่อนเกิดวิกฤติ COVID-19    

ส่วนเรื่องของออนไลน์ช้อปปิ้ง JCB ร่วมกับพาร์ทเนอร์ ทั้ง Lazada และ Shopee โดย Lazada จัดทำแพลตตินั่มเซอร์วิส ทุกวันพุธ เมื่อซื้อครบ 1,800 บาทขึ้นไป ได้ส่วนลด 12%  ส่วนของ Shopee ร่วมทำบิ๊กแคมเปญ  ส่งผลให้ยอดขายเติบโตสูงมากถึง 9 เท่า เมื่อเทียบกับยอดขายปกติในช่วงของวันที่จัดโปรโมชั่นพิเศษ ส่วนอีวอลเล็ททั่วไปยังมี Dolfin E-Wallet ของกลุ่มเซ็นทรัลซึ่งตอนนี้ ทำรอบที่ 2 เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา คือถ้าใช้จ่ายครั้งละ 300 บาทขึ้นไป ก็จะได้ Dolfin Bonus กลับคืน 50 บาท โดยในครั้งนี้ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์นี้เมื่อใช้ช้อปปิ้งออนไลน์กับ JD Central อีกด้วย

สำหรับสถานการณ์โควิด19 ประเมินไว้ว่าอีกประมาณ 1 ปี ที่คนจะกลับมาใช้จ่ายเหมือนเดิม หลังจากนี้ JCB ต้องดูสถานการณ์หากดีขึ้น จะต้องกลับไปทบทวนแผนการตลาด สำหรับการใช้จ่ายด้านออฟไลน์ เพื่อช่วยเหลือหน้าร้านมากขึ้น ส่วนเป้าหมายในปีนี้ ตั้งเป้าอยากให้บัตร JCB ในตลาดประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 15%