อุตตม ติวเข้มสส. ซ้อมรับมือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

25 พ.ค. 2563 | 10:36 น.

อุตตม รวมกลุ่มสส.ติวเข้ม ซ้อมรับมือ พ.ร.ก.กู้ 1 ล้านล้านบาท ก่อนเปิดสภาอภิปราย

การประชุม สภาผู้แทนราษฎร ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่  27-31 พ.ค.นี้ โดยมีวาระหลักคือ การอภิปรายเพื่อพิจารณาอนุมัติพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) 4 ฉบับคือ1.พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท

2.พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท (พ.ร.ก.ซอฟต์โลน)  3.พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ.2563 วงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาท และพ.ร.ก.ว่า ด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2563

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในฐานะหัวหน้า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เลขาธิการพรรค นำทีมลูกพรรคร่วม 30 คน ประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจการกู้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา การระบาาดของโควิด-19 ก่อน เปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 27 พ.ค.นี้

อุตตม ติวเข้มสส. ซ้อมรับมือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

นายอุตตม กล่าวว่า สส.จำนวน 30 คน เดินทางมากระทรวงการคลัง เพื่อขอรับทราบข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปรายในสภาครั้งนี้ รวมถึงซักซ้อมทำความเข้าใจถึงประเด็นเนื้อหาดังกล่าวด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ทางพรรคก็ได้เสนอข้อมูลวิปรัฐบาลดู โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.ซอฟต์โลน ของธนาคารแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้กังวลใจกับอภิปรายดังกล่าว เพราะได้มีการเตรียมตัวกันอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าจะช่วยกันชี้แจงในข้อซักถามต่างๆ ได้

อุตตม ติวเข้มสส. ซ้อมรับมือ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เงินกู้ 400,000 ล้านบาท จะใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น เป็นการตีเช็คเปล่าไว้ล่วงหน้าหรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ได้ตีเช็คเปล่า เพราะขั้นตอนการขอใช้งบประมาณนั้น เป็นไปตามกรอบที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ยกร่างขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะต้องปฎิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง และต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ รวมถึงคณะรัฐมนตรีด้วย ที่สำคัญสามารถให้ตรวจสอบได้ เพราะต้องส่งสรุปโครงการให้สภาฯ ตรวจสอบด้วย