คลังเร่งเพิ่มออมครัวเรือน

06 พ.ค. 2563 | 23:50 น.

นักวิชาการ ชี้คนไทยออมตํ่า กระทบความเป็นอยู่ช่วงวิกฤติ แนะรัฐเร่งส่งเสริม ด้านคลัง เตรียมใช้ฐานข้อมูลลงทะเบียนเยียวยา Covid-19 แก้ปัญหาระยะยาว เชื่อทำคนไทยมีการบริหารการเงินดีขึ้นแน่

ความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัส Covid-19 สะท้อนความเปราะบางด้านการเงิน โดยเฉพาะประชาชนในระดับฐานราก ที่ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ ซึ่งจากข้อมูลของสมาคมบริษัทจัดการกองทุนพบว่า เงินฝากของภาคครัวเรือนปี 2562 มี 7.9 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 7.6 ล้านล้านบาทปี 2561 ที่มี 7.6 ล้านล้านบาท

 

และส่วนใหญ่มาจากครัวเรือนที่มีรายได้สูงเช่นเดียวกับข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ระบุว่า ช่องว่างการออมและการลงทุน เป็นเงาสะท้อนความไม่สมดุลในระบบเศรษฐกิจไทย ซึ่งมีผลต่อศักยภาพการเติบโต การกระจายรายได้ และเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งแม้ภาพรวมการออมภาคครัวเรือนจะดีขึ้น แต่ยังตํ่ากว่าก่อนปี 2540 และยังกระจุกตัวในกลุ่มรายได้สูง

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI)กล่าวยอมรับว่า การเกิดวิกฤติ Covid-19 ทำให้เห็นปัญหาสำคัญของคนไทยคือ การออม ที่ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่มีความสามารถในการออมตํ่าเพียง 1-2 สัปดาห์ เท่านั้น เพราะประชาชนระดับฐานรากเป็นกลุ่มคนหาเช้ากินคํ่า จึงแก้ไขปัญหาการเงินเฉพาะหน้าได้เท่านั้น ยิ่งเมื่อรวมกับการก่อหนี้สะสมที่เกิดขึ้น ทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ จึงเป็นปัญหาที่มีเงินทุนหมุนเวียนไม่มากพอ ในยามที่เกิดวิกฤติ ไม่มีรายได้ช่วง 1-2 เดือน ซึ่งหาก Covid-19 ลากยาวไป 1 ปีครึ่งตามที่ฝ่ายคาดการณ์ อาจส่งผลต่อเงินในกระเป๋าของประชาชนและธุรกิจขนาดกลางและเล็กมากขึ้นไปอีก

 

ลวรณ แสงสนิท

 

สิ่งที่รัฐบาลแก้ไขปัญหาระยะสั้น ด้วยการอัดฉีดเงินให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย รัฐจำเป็นต้องส่งเสริมการออมให้กับประชาชนฐานรากให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้คุณภาพชีวิตของประชาชนระดับฐานรากดีขึ้น ซึ่งจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างการออมครัวเรือนใหม่ทั้งหมด

 

ด้านนายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่า หลัง Covid-19 จบลง กระทรวงการคลังจะใช้ฐานข้อมูลที่ประชาชนลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท มาเป็นข้อมูล เพื่อใช้ในการส่งเสริมให้ประชาชนใส่ใจการออมมากขึ้น โดยจะใช้คลังจังหวัดเป็นตัวแทนในการให้ข้อมูลและแนะนำการออมเงินครัวเรือนอย่างเหมาะสมและทำได้จริงสำหรับประชาชนแต่ละราย ซึ่งเชื่อว่า หากทำอย่างเป็นระบบ จะทำให้สัดส่วนการออมของประเทศ โดยเฉพาะการออมภาคครัวเรือนสูงขึ้นได้

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,572 วันที่ 7 - 9 พฤษภาคม .. 2563