นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังคาดว่าจะคัดกรองผู้ที่มาลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือเดือน 5,000 บาท ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้เสร็จสิ้นทั้งหมดภายในวันที่ 12 เม.ย.63
ในส่วนขแงกลุ่มที่ได้รับเงินไปแล้ว กระทรวงการคลังจะมีระบบตรวจทานซ้ำว่าอยู่ในเกณฑ์ได้รับเงินช่วยเหลือถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็จะต้องคืนเงินภายใน 90 วัน
ล่าสุดมียอดผู้มาลงทะเบียนผ่านเว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com 24.8 ล้านคน เบื้องต้นพบว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินช่วยเหลือ 1.68 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลจะทยอยโอนเงินให้ตั้งแต่วันที่ 8-10 เม.ย.นี้ และตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะทยอยโอนเงินให้ผู้ที่ผ่านเกณฑ์ทุกวัน ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ และกลุ่มที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจะส่ง SMS แจ้งในช่วงวันที่ 11-12 เม.ย.นี้
"ธนาคารกรุงไทย ชี้แจงว่าระบบจะเริ่มส่ง SMS แจ้งผลให้กลุ่มที่เป็นสีแดง คือไม่ได้เงินแน่นอน กับกลุ่มสีเทา คือต้องส่งข้อมูลเพิ่มเติม ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นี้ ส่วนผู้ที่ได้รับเงินแน่นอน จะส่ง SMS ให้ในช่วง 8-10 เม.ย." โฆษกกระทรวงการคลังระบุ
นายลวรณ กล่าวว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท จะคงไว้ที่ 3 เดือนก่อน ส่วนที่จะขยายไปอีกเป็น 6 เดือนนั้น จะพิจารณาตามความจำเป็นของสถานการณ์ เนื่องจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ในส่วนใช้เยียวยา 6 แสนล้านบาท กำหนดให้กระทรวงต้องมีการเสนอโครงการเข้าคณะกรรมการกลั่นกรอง และเสนอความเป็นให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งสถานการณ์โควิดอาจจะสิ้นสุดเร็วหรือช้ากว่าที่คาด ไม่มีใครรู้แน่นอน
จากข้อมูลผู้มาลงทะเบียนกว่า 24.8 ล้านคน พบว่า กลุ่มรับจ้างทั่วไปลงทะเบียน 11.7 ล้านคน ผ่านเกณฑ์แล้ว 4 แสนคน กลุ่มค้าลงทะเบียน 6.3 ล้านคน ผ่านเกณฑ์ 6 แสนคน กลุ่มที่มีนายจ้างลงทะเบียน 1.9 ล้านคน ผ่านเกณฑ์ 4 แสนคน กลุ่มขับรถรับจ้าง ลงทะเบียน 3 แสนคน ผ่านเกณฑ์ 1 แสนคน กลุ่มผู้ค้าสลาก ลงทะเบียน 2 แสนคน ผ่านเกณฑ์ 2 หมื่นคน มัคคุเทศก์ ลงทะเบียน 3 หมื่นคน ผ่านเกณฑ์ 1 หมื่นคน อาชีพอิสระอื่นๆ ลงทะเบียน 1.7 ล้านคน ผ่านเกณฑ์ 1 แสนคน
ส่วนกลุ่มที่ไม่เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือ แต่มาลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก ได้แก่ อาชีพอิสระบางประเภท อาทิ ค้าขายออนไลน์ รับจ้าง (แรงงานก่อสร้าง) โปรแกรมเมอร์ ก็จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้าออนไลน์ พบว่ามาลงทะเบียน 2.1 ล้านคน จะไม่ผ่านเกณฑ์เลยแม้แต่รายเดียว เนื่องจากรัฐไม่ได้สั่งปิดกิจการ แต่การค้าขายที่ไม่ดีมาจากผลกระทบเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาโควิด