ความสำคัญของผู้บริโภค ชาวอเมริกัน ต่อเศรษฐกิจโลก

04 เม.ย. 2563 | 23:00 น.

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกัน มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากขนาดไหน เพราะสหรัฐฯ มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก GDP ปี 2019 สูงถึง 21.43 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าจีนที่เป็นอันดับ 2 ค่อนข้างมาก โดย GDP จีนอยู่ที่ 14.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้ามองในสัดส่วนของ GDP สหรัฐฯ ภาคการบริโภคของประชาชนชาวอเมริกันก็มีสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP ซึ่งสูงมาก เรามาดูกันว่าภาคการบริโภคของสหรัฐฯมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก มากขนาดไหน และอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

 

1.เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้เพราะผู้บริโภคแข็งแกร่ง

 ถ้าพูดถึงการบริโภค จะครอบคลุมสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รถยนต์ นํ้ามันเชื้อเพลิง รวมไปถึงสินค้ากึ่งบริการอย่างเฮลธ์แคร์ ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว ตัวเลขการบริโภคอย่าง Retail Sales และ Consumer Confidence จึงมีความสำคัญและมักถูกใช้เป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากเกิดวิกฤติการเงินปี 2008 จน Fed ต้องดำเนินนโยบายดอกเบี้ยตํ่า 0% มาหลายปี ส่งผลให้ภาคการบริโภคมีต้นทุนที่ตํ่าลง การบริโภคเติบโตดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็วิ่งเป็นกระทิงเปลี่ยวมาได้กว่า 1 ทศวรรษ

2. ผู้บริโภคแข็งแกร่ง ผู้ประกอบการก็ต้องแข่งขันกันสูง

 เมื่อผู้บริโภคมีการจับจ่ายที่ดีและเติบโต ผู้ประกอบการก็ต้องการมีส่วนแบ่งในจิตใจและกระเป๋าเงินของผู้บริโภคชาวอเมริกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ตามมาคือ การพัฒนาเพื่อให้สินค้าโดดเด่น และมีราคาที่เหมาะสม เราคงได้เห็นสินค้าเทคโนโลยีทั้งในตัวสินค้าที่จับต้องได้ และภาคบริการที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง

 

ความสำคัญของผู้บริโภค  ชาวอเมริกัน  ต่อเศรษฐกิจโลก

 

3. เริ่มเห็นสัญญาณของการใช้จ่ายที่เติบโตน้อยลง

ช่วงปี 2018 ตัวเลข Personal Consumer Expenditure ของผู้บริโภคชาวอเมริกันยังเติบโตได้ค่อนข้างดีที่ 5.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ในปี 2019 ตัวเลขการเติบโตเริ่มลดลงมาอยู่ที่ 4% เนื่องจากความตึงเครียดในเรื่องความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตอย่างรุนแรงของ e-commerce ซึ่งมีราคาถูกกว่าซื้อจากหน้าร้านปกติ จำนวนเงินที่ใช้จ่ายต่อปีก็ลดลงไปแล้ว

 

4. เน้นเช่าไม่เน้นซื้อมากขึ้น

คนในยุค Gen Y (Millennial) และ Gen Z เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมการบริโภคที่ต่างไปจากคนในยุค Baby Boomer และ Gen X อย่างชัดเจน กลุ่มนี้ไม่นิยมซื้อสินค้าที่เป็น Big Ticket อย่างบ้านและรถยนต์ ผู้บริโภคในกลุ่มนี้จะขึ้นมาเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักในสหรัฐฯ และทั่วโลก ดังนั้นแล้ว มีแนวโน้มว่าผู้บริโภคในอนาคตจะจ่ายเงินลดลงในภาพรวม แต่ธุรกิจในด้าน Sharing Economy คงจะเติบโตขึ้นอย่างมาก

5.COVID-19 จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวสหรัฐฯ มากขนาดไหน

 ปัจจุบันสหรัฐฯคือประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 สูงที่สุดในโลก ตัวเลขพุ่งขึ้นมากกว่า 150,000 ราย ณ ตอนนี้การบริโภคคงยังไม่กระทบมากนัก เนื่องจากระบบขนส่งของผู้ค้าปลีก e-commerce ในสหรัฐฯ อยู่ในระดับดีมาก เมื่อไม่สามารถออกจากบ้านก็สั่งมาที่บ้านแทน และมาตรฐานในแต่ละรัฐก็ไม่ได้ต่างกันสุดๆ เหมือนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่บริการมักจะกระจุกตัวอยู่แค่ในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น แต่ภาพความคลี่คลายการแพร่ระบาดของโลกยังไม่ชัดเจน และผลกระทบต่อเศรษฐกิจจะรุนแรงขนาดไหน ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ต้องลดลง

 

 การเกิดโรคระบาดส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวลงไปมาก ทำเนียบขาวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ล่าสุดสภาคองเกรสได้ผ่านพ.ร.บ.กระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนหนึ่งนำไปแจกให้กับคนอเมริกันทุกคนที่มีรายได้ไม่ถึงปีละ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ คนละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงขยายเวลานโยบาย Social Distancing ไปถึงวันที่ 30 เมษายน ซึ่งน่าจะช่วยให้การควบคุมและรักษาผู้ติดเชื้อมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

งานหนักที่จะเกิดขึ้นจากนี้คือ การสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคชาวสหรัฐฯให้ได้ เพราะนี่คือ พื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกอย่างแท้จริง เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้น ทั่วโลกก็จะฟื้นตามครับ

 

คอลัมน์มันนี่ดีไอวาย

โดย : เพิ่มศักดิ์ จักร์มงคลชัย

รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยการลงทุน สายงานวิจัย

บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่  40 ฉบับที่ 3,563 วันที่ 5-8 เมษายน 2563