ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 2.7%, ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.1% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.7%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยถูกกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรทรุดตัวลงมากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งได้ตอกย้ำถึงความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 701,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า อาจลดลงเพียง 10,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2560 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.7% หลังจากแตะระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
การลดลงของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร มีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ อันเนื่องมาจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
นักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐ จะหดตัวลง 38% ในไตรมาส 2/256
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์รายงานว่า ขณะนี้สหรัฐมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลกที่ 266,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,900 ราย
หุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ร่วงลง 3.19% หลังเปิดเผยว่าจะปลดพนักงานบางส่วนในสหรัฐในเดือนนี้ อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19