เงินบาทเปิด 33.09บาท/ดอลลาร์

02 เม.ย. 2563 | 00:47 น.

เงินบาทอ่อนค่าแล้ว 9.5% จากต้นปีมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ความผันผวนก็ขยับขึ้นมาที่ระดับ 7% จากช่วงต้นปีที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 4%

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 33.09 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ 32.95-33.20 บาทต่อดอลลาร์


ดร.จิติพล  พฤกษาเมธานันท์ นักวิเคราะห์ตลาดการเงินและตลาดทุนบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ระบุว่าในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินพลิกกลับไปปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 4.4% พร้อมกับบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับลดลง 9.3bps มาที่ 0.58% ใกล้เคียงระดับต่ำสุดในประวัติการที่เคยทำไว้ในวันที่ 9 มีนาคม 2020 ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน (3.5%) และทองคำ (0.9%)
 

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ก็อยู่ในภาวะเปราะบาง ล่าสุดการจ้างงานภาคเอกชน (ADP Employment) ปรับตัวลดลง 2.7 หมื่นตำแหน่ง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) ก็ปรับตัวลงสู่ภาวะทดถอย ด้วยแรงกดดันจากการสั่งซื้อสินค้า และราคาสินค้าที่ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (Initial Jobless Claims) ก็ยังเพิ่มขึ้นในระดับสูงที่ 3.7 ล้านตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนผู้รับสวัสดิการต่อเนื่องอาจพุ่งขึ้นสูงถึงกว่า 8 ล้านตำแหน่งในสัปดาห์หน้า คิดเป็นการว่างานชั่วคราวถึง 15% ซึ่งมากกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2008
 

ส่วนในฝั่งของตลาดเงินพบว่าดัชนีดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 98-100จุด เพราะแม้ ภาพความเสี่ยงในตลาดทุนที่สูงขึ้นจะหนุนให้เงินเยน (JPY) แข็งค่า แต่การระบาดของไวรัสในฝั่งยุโรป กลับมาเป็นปัจจัยกดดันให้บอนด์ยีลด์อิตาลีปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับยีลด์เยอรมัน กดดันให้เงินยูโร (EUR) ที่คิดเป็นกว่า 56% ของดัชนีอ่อนค่าลง 

 

ฝั่งเงินบาท แม้จะไม่ใช่สมรภูมิหลักของตลาดการเงินในรอบนี้ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วทั้งโลกเช่นเดียวกัน จากต้นปีมาจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าไปแล้วถึง 9.5% ขณะที่ความผันผวนก็ขยับขึ้นมาที่ระดับ 7% จากช่วงต้นปีที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 4%

 

มองว่าจุดต่อไปที่ต้องจับตานอกจากทิศทางของตลาดทุน ก็คือแนวโน้มการระบาดของไวรัสในฝั่งตะวันตกที่ต้องเทียบรายวันว่าระหว่างอเมริกาและยุโรป ฝั่งไหนจะควบคุมการระบาดได้ก่อนกัน ขณะที่ในระยะยาว จุดที่ต้องติดตามเพิ่มเติมคือทิศทางของราคาน้ำมัน ถ้ายังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องแม้ดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ก็อาจจะไม่เห็นการแข็งค่าของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) กลับมาในอนาคต