TMBAM ประเดิมคืนก้อนแรก 10 % ย้ำมุ่งคืนเงินเร็ว

01 เม.ย. 2563 | 08:22 น.

TMBAM Eastspring ให้ความมั่นใจประเดิมคืนเงินก้อนแรกแก่ผู้ถือหน่วย 10%  ย้ำมุ่งคืนเงินเร็วทุก1-2 สัปดาห์  และพยายามให้มูลค่าเงินลงทุนโดยรวมไม่ต่ำกว่า NAV ในวันที่ปิดกองทุน

กรุงเทพฯ, 1 เมษายน 2563 – บลจ.ทหารไทย (TMBAM Eastspring) ประเดิมจ่ายเงินคืนก้อนแรกแก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 30 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาโดยอยู่ในกรอบสูงสุดร้อยละ10 ของมูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่ของกองทุน พร้อมย้ำมุ่งจ่ายเงินทุก 1-2 สัปดาห์ รวมทั้งมุ่งรักษามูลค่าเงินลงทุนโดยรวมให้กลับคืนสู่ผู้ลงทุนได้ไม่ต่ำกว่ามูลค่าหน่วยลงทุนในวันที่ปิดกองทุน



นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ TMBAM Eastspring กล่าวว่า การจ่ายเงินครั้งแรกนี้ บริษัทฯ พิจารณาจากสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงมากและเงินสดในมือเป็นหลักเพื่อจะได้จ่ายคืนได้เร็วที่สุดช่วยเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน โดยกองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส ได้รับเงินคืนก้อนแรกนี้สูงกว่ากองทุนอื่น เพราะเป็นกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะสั้น สินทรัพย์ที่มีอยู่จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นเงินสดได้ง่าย ขณะที่กองทุนอื่น ได้แก่ กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล  กองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูนและกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ เป็นกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อระยะเวลาลงทุนยาวกว่าทำให้ต้องใช้เวลาในการแปรเปลี่ยนสินทรัพย์มากกว่า

 

“แผนการจ่ายเงินคืนที่เราประกาศไปนั้นเป็นเพียงประมาณการขั้นต่ำเพื่อการจ่ายเงินคืนผู้ถือหน่วยลงทุนในช่วงเวลากรอบ 90 วัน โดยเราพิจารณาเบื้องต้นจากสินทรัพย์ที่กองทุนลงทุนและครบกำหนดอายุเท่านั้น เราขอเน้นย้ำว่ายังมีเงินอีกส่วนที่ไม่ได้อยู่ในการประมาณการนี้ นั่นคือตราสารที่ยังไม่ครบกำหนดอายุซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่กว่ามาก”

แม้ว่าตราสารส่วนใหญ่จะมีอายุภายใน 1 ปี แต่สำหรับกลุ่มตราสารที่ยังไม่ครบกำหนดที่บางส่วนมีอายุปานกลางคืออยู่ในช่วงไม่เกิน 2-3 ปี ผู้จัดการกองทุนจะพยายามอย่างเต็มความสามารถที่ขายในราคาที่คุ้มค่าที่สุดเพื่อผู้ถือหน่วยลงทุน รวมทั้งมุ่งรักษามูลค่าเงินลงทุนโดยรวมเมื่อคิดเฉลี่ยต่อหน่วยแล้วไม่ต่ำกว่ามูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ในวันที่ปิดกองทุน โดยกระบวนการทั้งหมดจะต้องดำเนินการภายในเวลาที่ไม่นานเกินไปนัก เพราะเราถือว่าสิ่งนี้เป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องทำให้ลุล่วง

 

ทั้งนี้ ตราสารหนี้ในกองทุน ล้วนเป็นตราสารหนี้ในระดับ Investment grade ซึ่งมีคุณภาพดี และไม่ได้มีปัญหาผิดนัดแต่อย่างใด ประกอบกับในสถานการณ์ปัจจุบันที่ธนาคารกลางทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างเข้ามาสนับสนุนตลาดตราสารหนี้อย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางสหรัฐที่ออกมาตรการขยายขอบเขตการเข้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินถึง 3.75 แสนล้านดอลลาร์ 


ธนาคารกลางยุโรปเอง ก็ประกาศใช้ QE ในวงเงินรวม 7.5 แสนล้านยูโร และแม้แต่ในไทยเองเราก็ได้เห็นมาตรการต่างๆ ทั้งจากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังที่พร้อมจะสนับสนุนตลาดตราสารหนี้ ให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถขายสินทรัพย์ได้ในราคาที่เหมาะสม

สำหรับ กระบวนการปิดกองทุนภายใต้กรอบเวลา 90 วันนั้น บริษัทขอให้ความมั่นใจว่าจะบริหารสินทรัพย์ที่เหลืออยู่อย่างมืออาชีพ โดยไม่คิดค่าบริหารกองทุนใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์ COVID 19 ในปัจจุบันยังคงทวีความรุนแรง และไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย อาจทำให้แผนงานที่บริษัทได้วางไว้มีการเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทอาจพิจารณาขอสำนักงาน ก.ล.ต.เพื่อขยายเวลาให้มากกว่า 90 วัน หากพิจารณาแล้วว่าการขายสินทรัพย์ภายใต้กรอบระยะเวลาดังกล่าวจะทำให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนต่ำกว่าเป้าหมายมากซึ่งไม่เป็นผลดีอย่างยิ่งต่อผู้ถือหน่วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามบริษัทจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำให้ผู้ถือหน่วยทุกคนได้รับเงินคืนภายใน 90 วัน  ทั้งนี้การดำเนินการใดๆก็ตาม บริษัทจะปกป้องผลประโยชน์ผู้ลงทุนเป็นสำคัญ