คลังเชื่อเศรษฐกิจไทยยังไม่พัง ยันมาตรการแจกเงินประคองได้

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง มั่นใจว่าการเสนอชุดมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา(Covid-19) ชุดที่ 1 วงเงินกว่า 1 แสนล้านบาทให้ ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจพิจารณาวันที่ 6 มี.ค.2563 จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ และลดผลกระทบจาก Covid-19 ได้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการเสนอมาตรการทั้งหมด 10 ด้าน ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบทั้งภาคธุรกิจ เอสเอ็มอี พนักงาน ลูกจ้าง ประชาชน และเกษตรกร

“มาตรการที่เสนอไปมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการดูแลเศรษฐกิจและขอให้มั่นใจว่ารัฐเอาอยู่ ส่วนการที่ภาคเอกชนปรับจีดีพีปีนี้เหลือ 0.5% เพราะพิจารณาจากปัจจัยในปัจจุบัน แต่หากเห็นมาตรการใหม่ที่กำลังออกมา เชื่อว่าจะต้องทบทวนตัวเลขใหม่อีกครั้ง”นายลวรณ กล่าว

ทั้งนี้มาตรการที่จะออกมานั้น จะมีหลายด้าน ทั้งสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำช่วยให้ภาคธุรกิจมีสภาพคล่อง ไม่ต้องปลดพนักงาน รวมถึงมาตรการทางภาษี ส่วนการแจกเงินช่วยเหลือจะเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่แจกเงินทั้งหมด 1 แสนล้านบาท ซึ่งจะต้องรอให้ ครม.เศรษฐกิจเป็นผู้พิจารณา เนื่องจากมีหลายกระทรวงเข้ามาเกี่ยวข้อง 

ขณะที่แหล่งเงินงบประมาณที่ใช้นั้น ยืนยัน มีเพียงพอ เพราะสามารถหาได้จากหลายแหล่ง ทั้งงบประมาณกลาง หรือการกู้ เนื่องจากหนี้สาธารณะของไทยยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 42% ของจีดีพี ตลอดจนการนำเงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมาใช้ได้เช่นกัน

นายลวรณ กล่าวว่า การแจกเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจาก Covid-19 นั้น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะในหลายประเทศก็ดำเนินการเช่นเดียวกัน เช่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ เพราะต้องการให้ประชาชนนำเงินไปใช้สอยเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และยังช่วยบรรเทาปัญหารายได้ที่ลดลงอีก

ด้านนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมฯได้เสนอมาตรการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว โดยจะขยายเวลาจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ประชาชน เกษตรกร ห้างร้าน และบริษัท ที่มีสัญญาเช่าที่ราชพัสดุเพื่อพักอาศัย เช่าเพื่อเชิงพาณิชย์ และเช่าเพื่อการเกษตร ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ออกไปอีก 6 เดือน ครอบคลุมผู้เช่าทั้งหมดกว่า 1 แสนราย เพื่อช่วยลดผลกระทบค่าใช้จ่ายให้ประชาชนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว 

“หลังจาก ครม.เห็นชอบ กรมฯจะเปิดให้มาแจ้งสิทธิผ่อนผันค่าเช่าได้ โดยทุกคนจะมีสิทธิทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่ เช่น บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่เช่าที่ราชพัสดุทำสนามบินสุวรรณภูมิก็จะได้รับการผ่อนผันค่าเช่าซึ่งปกติเสียกว่าพันล้านบาท รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ก็เข้ามาขอได้ ซึ่งภาพรวมแม้ทำให้การจัดเก็บรายได้ปีนี้ของกรมฯลดลงไปบ้าง แต่เชื่อว่ายังจะทำได้ถึง 1 หมื่นล้านบาทอยู่”นายยุทธนา กล่าว