Kbank ไพรเวตแบงกิ้ง เฟ้นธุรกิจ S-Curve รุ่นสู่รุ่น

26 ก.พ. 2563 | 11:45 น.

เคแบงก์ไพรเวทแบงกิ้งผนึกลอมบาร์ด ปักธงบริหารองค์กร-มูลนิธิการกุศลส่ง ชู 3S กลยุทธ์เสริมแกร่ง เฟ้นธุรกิจ S-Curve ครอบครัวลูกค้ารุ่นสู่รุ่น

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์  Private Banking Group Head ธนาคาร กสิกรไทยเปิดเผยว่า ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และความผันผวนของสภาพเศรษฐกิจ ด้วยความมุ่งมั่นในการดูแลทุกมิติของการเก็บรักษา สร้างการเติบโต และส่งต่อความมั่งคั่งของลูกค้ากลุ่มบุคคลสินทรัพย์สูง KBank Private Banking จึงวางกลยุทธ์เพื่อยกระดับการบริการและคลายทุกความกังวลของลูกค้า พร้อมเดินหน้าการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร Lombard Odier ผู้ให้บริการไ​พรเวทแบงค์ระดับสากล เตรียมขับเคลื่อนธุรกิจและความมั่งคั่งของลูกค้าผ่านกลยุทธ์ ‘3S’คือ 1.ผลักดันให้เกิดการลงทุนที่สนับสนุนระบบเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน(Sustainable investment approach) 2.ปลดล็อคความมั่งคั่งสู่การสร้างผลกระทบเชิงบวกโดยตรงต่อสังคม (New dimension of wealth sharing )และ 3. เปิดประตูสู่องค์ความรู้ด้านนวัตกรรมระดับโลกเพื่อสร้างศักยภาพใหม่ให้ธุรกิจไทย(S-Curve re-innovation)

Kbank ไพรเวตแบงกิ้ง  เฟ้นธุรกิจ S-Curve รุ่นสู่รุ่น

"ภาพรวมของตลาดตั้งแต่ต้นปีเงินลงทุนของลูกค้าหาที่ไปที่มีคุณภาพและปลอดภัยโดยวันนี้ไม่มีตลาดไหนที่มีผลตอบแทนเป็นบวกแม้กระทั่งในตราสารหนี้ผลตอบแทนก็ยังบวกบางๆในส่วนของเราสามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นบวกที่ 0.5 ถึง 0.8 %ซึ่งก็เป็นความภูมิใจเมื่อเทียบกับที่ไม่มีตลาดไหนเป็นบวกขณะที่พอร์ตการลงทุนยังคงมีการกระจายตัวโดยให้กลไกปรับความเสี่ยงทำงานส่วนเงินลงทุนภายใต้การบริหารส่วนใหญ่ 80%อยู่ในตราสารหนี้ที่เหลือลงทุนในหุ้นไม่ถึง 20%และอีก5-11%เป็นเเงินฝาก"


นางสาวศิริพร สุวรรณการ Private Banking Financial Advisory Head ธนาคารกสิกรไทยกล่าวว่า  ปีนี้ KBank Private Banking มุ่งสนับสนุนธุรกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนของโลกโดยนำแนวคิดความยั่งยืนมาผนวกอยู่ในทุกคำแนะนำการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง พร้อมนำเสนอกลยุทธ์การลงทุนที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงบวก (Impact Investing) รวมถึงกองทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Fund) อย่างต่อเนื่อง 

“ตัวอย่างตอบโจทย์การบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมรวมถึงธรรมาภิบาลนั้นเห็นได้จากปีก่อน เราได้นำเสนอกองทุน K-HIT ซึ่งเปิดให้ลูกค้าได้ลงทุนในธีมธุรกิจเมกะเทรนด์เด่น ๆ เช่น พลังงานแห่งอนาคต (Next Generation Energy) การจัดการคุณภาพดินและน้ำ (Clean Water and Land) และ นวัตกรรมการแพทย์และดูแลสุขภาพ (Health Tech) เป็นต้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งกองทุนที่เติบโตได้ดีแม้ในสภาพตลาดขาลง เช่น ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของ “ไวรัสโควิด-19” กองทุน K-HIT ยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 13.75% และกองทุน K- change โดยแต่ละกองทุนมีมูลค่า 1,200 ล้านบาท"

นายตรีพล ภูมิวสนะ Private Banking Business Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกิจกรรมเพื่อสังคมจากองค์กรสาธารณกุศลขนาดใหญ่ในประเทศไทย ที่มีสินทรัพย์รวมมูลค่ากว่า5แสนล้านบาท ยังคงเลือกบริหารจัดการกองทุนโดยรับความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก ซึ่งในปีนี้ KBank Private Banking เตรียมเดินหน้าเปิดมิติใหม่ในการบริหารจัดการสินทรัพย์เพื่อสาธารณกุศล เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกโดยตรงต่อสังคม ผ่านการเพิ่มศักยภาพให้กับมูลนิธิในการบริหารจัดการความเสี่ยงและการเงินอย่างเหมาะสม พร้อมร่วมกับ Lombard Odier ในการให้คำปรึกษาในการจัดการกองทุน ระดมทุน และวางโครงสร้างองค์กร รวมถึงจัดงานสัมมนาร่วมกับกองทุนระดับโลก เพื่อถ่ายทอดความรู้เรื่องการบริหารจัดการกองทุนมูลนิธิแก่องค์กรของไทย

นายนนท์ บุรณศิริ Private Banking Family Wealth Management Advisory Head ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า  จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี จึงมีแนวโน้มที่ธุรกิจครอบครัวจะถูกดิสรับมากขึ้นซึ่งธนาคารต้องการที่จะช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นธุรกิจครอบครัวหรือธุรกิจรายบุคคลให้มีความรู้และสามารถต่อยอดธุรกิจของครอบครัวโดยเฉพาะพยายามแสวงหาโอกาสใน S-Curve ใหม่หรือโมเดลธุรกิจใหม่ๆเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจครอบครัวของลูกค้าของกสิกรไทย

"ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเราเลือก1บริษัทให้ลูกค้าต่อยอดธุรกิจโดยเข้าถือหุ้นในบริษัทธุรกิจเรียลเอสเตทและอีกรายอยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งเรามีทั้งเงิน บุคลากรและสินทรัพย์โดยมีลูกค้าที่เป็นธุรกิจครอบครัวประมาณ 5,000-6,000 รายพร้อมที่จะกระจายการลงทุนเพื่อต่อยอดธุรกิจและเป็นความตั้งใจของเราที่จะเลือกธุรกิจ S-Curve และช่วยบริหารความเสี่ยงเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับธุรกิจครอบครัวรุ่นสู่รุ่น"