ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2563 ว่าขณะนี้ชัดเจนว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้เติบโตอย่างที่คาด จากผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19 ) คาดจะส่งผลถึงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเฉพาะไตรมาสแรกจะเป็นจุดต่ำสุด ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟ ได้ประมาณการเศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือ 3.3 % จากเดิมที่ 3.4 % (แต่คาดว่าการระบาดของไวรัสอาจทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกลดลง 0.1% จากที่คาด )
“ขณะนี้มีสำนักวิจัยต่างประเทศคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาปีนี้จะโตระดับ 2 % จีนอาจจะโตเพียง 3.5-4% จากปีที่แล้วที่ขยายตัวระดับ6% หาก 2 ประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกชะลอ ย่อมกระทบไปทั่วโลก เศรษฐกิจไทยกระทบแน่ เพราะมีหลายเซ็กเตอร์เกี่ยวข้องทั้งธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยวและการบิน โรงพยาบาล ค้าปลีก ฯลฯ แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ขึ้นกับการปรับตัวของแต่ละเซ็กเตอร์ อย่างไรก็ดีหากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบ กระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทาง ซึ่งแต่ละประเทศต่างก็ปรับลดดอกเบี้ยลงกันทั้งนั้น ของไทยยังถือว่าปรับลงช้าไป
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. ) ได้ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.00% มีผลเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถือเป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์
“ธปท.ช่วยได้โดยการลดดอกเบี้ยลงอีก และควรให้เงินบาทอ่อนกว่านี้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและส่งออกได้ การที่เงินบาทมาอยู่ระดับ 31.40-31.80บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ไม่ได้เป็นผลจากธปท.ลดดอกเบี้ยเพราะลดช้าไป แต่เป็นเพราะการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวที่มาจากรายได้ต่างประเทศชะลอลง “
ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้น ดร.ก้องเกียรติ กล่าวว่ายังคาดการณ์ได้ยาก แต่จากการที่เศรษฐกิจไทยชะลอ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ( บจ.) EPS (กำไรต่อหุ้น ) ที่ได้รับกระทบตาม ส่งผลต่อดัชนีหุ้นไทยในปีนี้ไม่สดใสต่อเนื่องอีกปี ( 2561-2563 )
“ ตลาดหุ้นไทยไม่มีบริษัทขนาดใหญ่ด้านไอเทคเข้ามาลงทุนในตลาดเหมือนต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทก่อสร้าง หรือติดตั้งชิ้นส่วนเทคโนโลยี ขณะที่ตลาดอเมริกาและตลาดยุโรปจะมีบริษัทขนาดใหญ่ด้านเทคโนโลยีในตลาดหุ้นค่อนข้างมาก และเศรษฐกิจที่ชะลอ ยังส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน EPS ในปีนี้ ทำให้ตลาดหุ้นไทยช่วง 2-3 ปียังไม่สดใส”