บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลประกอบการปี 2562 มีกำไรสุทธิ 4.89 พันล้านบาท เติบโต 61.4% (จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.30 พันล้านบาท )หนุนจากการเพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า รวมทั้งกำไรพิเศษจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.37 พันล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.2%
สำหรับรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.8% จากการรับรู้ยอดขายโรงไฟฟ้า SPP ทั้ง 12 โครงการในกลุ่ม GMP และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ ในเวียดนาม เทียบกับโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพียง 8 โครงการ ในปี 2561
โครงสร้างรายได้ของบริษัทมาจากการขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. และ กฟภ. รวม 2.25 หมื่นล้านบาท ขายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม 6.29 พันล้านบาท ขายไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม 641 ล้านบาท และขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าเวียดนาม 210 ล้านบาท
ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1.34 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จาก ณ วันที่ ส่วนใหญ่มาจากการบันทึกมูลค่าโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโครงการโรงไฟฟ้า SPP ภายใต้กลุ่ม GMP และโครงการโรงไฟฟ้าที่เวียดนาม และมูลค่างานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นของโครงการ GSRC และโครงการ GCG
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่2/2563เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ได้พิจารณาอนุมัติเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) ของบริษัทจากเดิมมูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็น 1 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายหุ้นของบริษัทแก่นักลงทุน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพาร์ ดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อทุนจดทะเบียน ทุนที่ออกชำระแล้วและสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นปัจจุบัน
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนและทุนที่ออกชำระแล้ว 10,666.50 ล้านบาท พาร์หุ้นละ 5 บาท มีจำนวนหุ้น 2,133.30 ล้านหุ้น ภายหลังแตกพาร์เป็น 1บาท จำนวนหุ้นจะเพิ่มเป็น 10,666.50 ล้านหุ้น
พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำปีสิ้นสุดวันที่31ธันวาคม 2562 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมในอัตรา 1.30 บาท ต่อหุ้น สำหรับจำนวนหุ้น 2,133,300,000 หุ้น รวมเป็นเงิน 2,773,290,000 บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวัน อังคารที่ 28 เมษายน 2563 กำหนดให้วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date)