BBP-AAVกอดคอ  หลุดคำนวณดัชนี

26 ก.พ. 2563 | 02:35 น.

CRC เข้าเทรด ดัน BBP-AAV หลุด SET50 และ SET100  โบรกฯ ชี้ราคาหุ้นถูกกดดันจากสถาบันปรับพอร์ตระยะสั้น ลุ้นฟื้นตัวได้ แต่ยังมีปัจจัยกดดันรอบด้าน

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า หลังจากบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)(CRC) จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งจะเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป นอกจากนั้นได้นำหลักทรัพย์ของบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BPP) ออกจากองค์ประกอบของดัชนี SET50 และบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) (AAV) ออกจาก SET100 เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ระหว่างรอบที่กำหนดหลักการมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) มากกว่า 1% ของมาร์เก็ตแคปตลาดรวม

สำหรับที่ผ่านมา มีบริษัทเข้าซื้อขายขนาดใหญ่อย่าง บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (AWC) จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 ทำให้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KKP) และบริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ออกจาก SET50 และ SET100 เช่นกัน โดยราคาหุ้น 4 ราย ในวันที่ทำการซื้อขายวันแรกของ AWC และ CRC ปรับลดลง 3 ราย คือ KKP, BEAUTY และ BPP ส่วน AAV ราคาปรับเพิ่มขึ้น

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจาก CRC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จากการที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ ทำให้มีหุ้นที่ต้องออกจากดัชนี SET50 และ SET100 คือ BPP และ AAV โดยปกติในช่วงก่อนที่จะออก ราคาหุ้นจะถูกปรับนํ้าหนักจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งในระยะสั้นจะถูกกดดันเป็นพิเศษ แต่หลังจากนั้นราคาจะปรับเพิ่มขึ้นตามปัจจัยพื้นฐานของแต่ละตัว

BBP-AAVกอดคอ  หลุดคำนวณดัชนี

 

อย่างไรก็ตาม มองว่า AAV ยังมีความกดดันจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่วน BPP ปัจจุบันภาพรวมกลุ่มโรงไฟฟ้าในระยะสั้นยังไม่ดีมากนัก จากการที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว ส่งผลต่อราคาหุ้นหลังจากนี้อาจจะไม่ปรับขึ้นอย่างหวือหวามากนัก

บล.เคจีไอฯ ระบุว่า ปัจจัยลบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา จะส่งผลกระทบด้านลบกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของ AAV ในช่วงครึ่งแรกปี 2563 จากการที่จำนวนผู้โดยสารชาวจีนลดลงอย่างมาก ทั้งนี้รายได้จากผู้โดยสารชาวจีนคิดเป็น 30% ของรายได้รวมของ AAV แต่อย่างไรก็ตาม คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ลดอัตราภาษีสรรพสามิตนํ้ามันเครื่องบินสำหรับเส้นทางบินในประเทศของสายการบินในประเทศลงเหลือ 20 สตางค์ต่อลิตร เป็นเวลา 8 เดือน ทำให้ AAV สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายภาษีสรรพสามิตในปีนี้ได้ 948 ล้านบาท

 

ขณะเดียวกัน BPP รายงานผลดำเนินงานปี 2562 มีกำไรสุทธิ 2,969 ล้านบาท ลดลง 22% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,812.66 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าของโรงไฟฟ้าหงสา เหมืองภูไฟและโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่ลดลง รวมถึงการลดลงของรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอนํ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม โดยปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 5,687 ล้านบาท จากรายได้โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 4,790 ล้านบาท รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในจีน 755 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าในญี่ปุ่น ที่เริ่มดำเนินการสร้างรายได้ในไตรมาส 4 จำนวน 142 ล้านบาท

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2562 อัตราหุ้นละ 0.65 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วหุ้นละ 0.35 บาท คงเหลือการจ่ายปันผลอีก 0.30 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 9 เมษายน 2563 และกำหนดจ่าย วันที่ 28 เมษายน 2563

หน้า 13-14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,551 วันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2563