คลังชงครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นศก. 25 ก.พ.นี้

19 ก.พ. 2563 | 10:18 น.

คลัง เตรียมเสนอม.กระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ครม.พิจารณา 25 ก.พ.นี้ ยันต้องได้ใช้ในQ1 แน่ มั่นใจส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ ระบุ เดินหน้าเบิกงบลงทุนเต็มที่ พ.ค.ลงสู่ระบบกว่า 100,000 ล้านบาทได้ พร้อมคุย EU เตรียมลงทุนในไทยเพิ่ม เห็นเงินก้อนแรกในปีนี้

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะสภาธุรกิจอาเซียน(Eu-Asean Business Council) ว่า กระทรวงการคลังมีความพร้อมในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รองรับสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโรโรนา (Covid-19) โดยมาตรการจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเสนอแพคเกจมาตรการดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในวันที่ 25 ก.พ.นี้

คลังชงครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นศก. 25 ก.พ.นี้

ทั้งนี้มาตรการที่จะออกมานั้น จะเป็นมาตรการที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการขาดรายได้ และประชาชนทั่วไป ให้มีความสามารถในการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวให้ประคองตัวต่อไปได้ แต่จะใส่เม็ดเงินลงสู่ระบบ ผ่านโครงการชิมช้อปใช้ 4 และใช้งบประมาณในการดำเนินการเท่าไรนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่เชื่อว่าทั้งหมดจะมีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมแน่นอน

ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกทางหนึ ซึ่งจะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของผู้มีรายได้น้อย รวมไปถึงการผลักดันเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ให้ลงสู่ระบบเร็วขึ้น โดยคาดว่าภายในเดือนพ.ค.นี้ จะมีเม็ดเงินลงทุนลงสู่ระบบมากกว่า 100,000 ล้านบาท รวมถึงเม็ดเงินลงทุนรัฐวิสาหกิจอีกกว่า 100,000 ล้านบาทด้วย

คลังชงครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นศก. 25 ก.พ.นี้

“มาตรการระยะสั้นเราได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว โดยเน้นไปที่การใช้เงินงบประมาณที่ภายใน 1 เดือน จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนได้ ซึ่งตรงนี้ได้กำชับให้สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง รวมถึงรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เตรียมความพร้อมเพื่อการลงทุนหากงบประมาณสามารถเบิกจ่ายได้ และให้กรมบัญชีกลางไปพิจารณาความคล่องตัวในการเบิกจ่ายด้วย”นายอุตตม กล่าว

ส่วนการการประชุมร่วมกับคณะสภาธุรกิจอาเซียนนั้น นักลงทุนมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย โดยจะเห็นเม็ดเงินลงทุนก้อนแรกภายในปีนี้ได้ เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวเห็นว่า ไทยยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพในระยะยาว โดยเฉพาะหากเข้ามาลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ ธุรกิจออนไลน์​ เวชภัณฑ์ และยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนักลงทุนไม่ได้สอบถามถึงความเสี่ยงในระยะสั้นที่เกิดขึ้น รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ด้วย

คลังชงครม.ไฟเขียวมาตรการกระตุ้นศก. 25 ก.พ.นี้

ส่วนกรณีที่บริษัท General Motor ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลตในไทย ประกาศถอนการลงทุนในไทยนั้น นายอุตตม กล่าวว่า นักลงทุนไม่ได้แสดงความกังวลและสอบถามในเรื่องดังกล่าว แต่ไทยได้ชี้แจงว่าเป็นแผนในการปรับโครงสร้างของบริษัทเอง เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นกับไทยเพียงประเทศเดียว ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการกลุ่มยานยนต์ของEU สะท้อนจากผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวยังมีความสนใจลงทุนในไทย