บลจ.ภัทร เพิ่มกองทุนต่างประเทศ

19 ก.พ. 2563 | 05:56 น.

บลจ.ภัทร เปิดขายกองทุนหุ้นต่างประเทศ 24 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคมนี้ เน้นลงทุนธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานทั่วโลก

นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ภัทร จำกัดเปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ –10 มีนาคม บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดภัทร โกลบอลอินฟราสตรัคเจอร์อิควิตี้ (Phatra Global Infrastructure Equity Fund - PHATRA GINFRAEQ)ซึ่งเป็นกองทุน Feeder Fund ที่เน้นลงทุนในกองทุนรวมหลักเพียงกองทุนเดียวคือ Lazard Global Listed Infrastructure Equity Fund ซึ่งลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน(Infrastructure Companies)และมีการคัดเลือกหลักทรัพย์ด้วยกระบวนการและปัจจัยกลั่นกรองหลายปัจจัย จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาวและรับความเสี่ยงได้สูง โดยกองทุน PHATRA GINFRAEQ จะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้กับผู้ลงทุน

บลจ.ภัทร เพิ่มกองทุนต่างประเทศ

สำหรับมุมมองการลงทุนปี 2563 นายยุทธพลกล่าวว่า ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งกระทบกับธุรกิจการท่องเที่ยว การบริโภคและห่วงโซ่การผลิต ความคืบหน้าทางการค้าสหรัฐฯ และจีน ความขัดแย้งในการกำหนดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปคพลัสที่กดดันราคาน้ำมันดิบให้ต่ำลง และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปลายปี ดังนั้นเพื่อลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนดังกล่าว ธนาคารกลางทั่วโลกได้กลับมาดำเนินนโยบายผ่อนคลายมากขึ้น โดยปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงและคงปริมาณเงินในระบบที่ระดับสูง  ดังนั้น การลงทุนที่ตอบโจทย์ในภาวะที่สภาพคล่องในระบบสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำ และตลาดโดยรวมยังค่อนข้างผันผวน ก็คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยแต่มีความผันผวนตามปัจจัยเสี่ยงระยะสั้นที่ต่ำ เช่น กระจายการลงทุนไปในหลายสินทรัพย์ในหลายประเทศ(Asset Allocation) ลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือ REITs ลงทุนในกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคที่มีผลการดำเนินงานที่มีกระแสเงินสดค่อนข้างสม่ำเสมอ หรือ ลงทุนระยะยาวในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัฎจักรการเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ เช่น กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มพลังงานสะอาด 

ทั้งนี้ เมื่อกลับมามองในมุมของนักลงทุนในไทย ที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกแล้ว ยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบภายในประเทศ  เช่น ปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี การผ่านงบประมาณภาครัฐล่าช้ากว่ากำหนด และปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างการเข้าสู่สังคมสูงวัย การขาดแคลนธุรกิจที่นับเป็นเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ทำให้ทางเลือกการลงทุนในประเทศของนักลงทุนไทยกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตลดลง ซึ่งแม้การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจะยังน่าสนใจ แต่มีความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องที่มีจำนวนหลักทรัพย์ให้ลงทุนได้น้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณเงินทุนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าว

"การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลายในต่างประเทศ ซึ่งมีสภาพคล่องสูงกว่าจะช่วยลดความเสี่ยงและให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาวแก่นักลงทุนไทย  กองทุนเปิดภัทร โกลบอลอินฟราสตรัคเจอร์อิควิตี้ จึงเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนไทย ได้กระจายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (Infrastructure Companies)"