ธปท.เชื่อ5G หนุนสินเชื่อแบงก์ปี63

17 ก.พ. 2563 | 09:40 น.

ธปท.มองสินเชื่อแบงก์ปี 63 ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ชี้ 5Gหนุน สินเชื่อทั้งปีโตสูงกว่า 2.0% ห่วงธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว

นายธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสี่ยงสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยถึงแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ปี 2563ว่า ภาพรวมสินเชื่อจะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ ถ้าภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มปรับลดลง แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อจะลดลงด้วย แต่หากมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น จะเห็นการเติบโตสินเชื่อในพอร์ตธุรกิจรายใหญ่ โดยต้องจับตาโครงการขนาดใหญ่ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดเช่น การประมูลคลื่น5G ส่วนการเติบโตสินเชื่อปีนี้มีโอกาสจะเติบโตสูงกว่า 2.0% หากไม่มีการชำระคืนหนี้เหมือนปีที่แล้ว ซึ่งธุรกิจรายใหญ่มีการระดมทุนทั้งจากตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ เพื่อชำระคืนหนี้ในระบบธนาคารพาณิชย์ค่อนข้างมาก

ธปท.เชื่อ5G หนุนสินเชื่อแบงก์ปี63

"แบงก์พาณิชย์ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อปีนี้เฉลี่ย 2% ซึ่งระยะสั้น เป็นห่วงภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ถ้าเรื่องไวรัสโคโรนาไม่จางลง ในระยะยาวจะต้องเกาะติดสถานการณ์ต่อเนื่อง แต่โดยรวมเชื่อว่า แบงก์คงจะใส่ใจและปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังมากขึ้น"
 

สำหรับผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ปี 2562 ว่า สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์เติบโตลดลงมาอยู่ที่ 2.00% จากสิ้นปี 2561 และ 2560 อยู่ที่ 6.0% และ 4.4% ตามลำดับ ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อและคุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามสิ้นปี 2562 ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,845 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรกำไรเข้าเป็นเงินกองทุน การออกหุ้นเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางแห่งหนึ่ง เพื่อรองรับการควบรวมกิจการ รวมถึงการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS ratio)เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 19.6%  เงินสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับสูงที่ 701.2 พันล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 32.4 พันล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองที่มีต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL coverage ratio) ทรงตัวที่ 149.9%  ด้านอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องเพื่อรองรับกระแสเงินสดที่อาจไหลออกในภาวะวิกฤต (Liquidity Coverage Ratio: LCR) อยู่ในระดับสูงที่187.5 % ขณะที่ปี 2562 ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 2.70แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 30.8% ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนเป็นสำคัญ

ธปท.เชื่อ5G หนุนสินเชื่อแบงก์ปี63

ทั้งนี้ ระบบธนาคารพาณิชย์ ยังมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อรายย่อย ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลงเล็กน้อยจากรายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินและรายได้ค่านายหน้าขายหลักทรัพย์ โดยอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย(Return on Assets: ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่1.39%จาก1.11%ในปีก่อน ขณะที่อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย (Net Interest Margin: NIM) ทรงตัวที่ 2.73%

สำหรับภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ในปี 2562 ที่ลดลงมาอยู่ที่ 2.0% มาจากสินเชื่อธุรกิจ ซึ่งคิดเป็น 64.1% ของสินเชื่อรวม หดตัว 0.8% ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการชำระคืนหนี้ในหลายประเภทธุรกิจ โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่(ไม่รวมธุรกิจการเงิน) หดตัว 1.9% และสินเชื่อธุรกิจ SME(ไม่รวมธุรกิจการเงิน) หดตัว 2.1%  ทั้งนี้สินเชื่อที่ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก(วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาท) ขยายตัวในหลายประเภทธุรกิจ อาทิ ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภค คิดเป็น 35.9% ของสินเชื่อรวม ขยายตัว 7.5% ชะลอลงจากปีก่อนในประเภทสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรถยนต์เป็นหลัก ขณะที่สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลยังขยายตัวได้ในระดับสูง

ขณะที่คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปี 2562 ยอดคงค้างสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPL) อยู่ที่ 4.65 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ 2.98% โดยระบบธนาคารพาณิชย์มีการบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่อด้วยการตัดหนี้สูญและการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น  สำหรับสัดส่วนสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention: SM) ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจาก 2.42% ณ สิ้นปี 2561 มาอยู่ที่ 2.79% จากทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออุปโภคบริโภค