‘โคโรนา’แพร่พิษ หุ้น โรงแรม การบิน อ่วม

29 ม.ค. 2563 | 13:20 น.

ไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดหนัก กดดันจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง นักลงทุนทิ้งหุ้นโรงแรม-สายการบิน โบรกปรับลดนํ้าหนักลงทุน “น้อยกว่าตลาด” แนะเลี่ยงลงทุนระยะสั้น

จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ที่เริ่มกระจายไปทั่วโลก ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตัวเลขล่าสุด (28 มกราคม 2563) มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 4,600 ราย และมีผู้เสียชีวิต 106 ราย และพบการติดเชื้อแล้วใน 18 ประเทศ แม้ทางจีนจะประกาศขยายวันหยุดตรุษจีนออกไปแบบไม่มีกำหนด รวมทั้งสั่งห้ามคณะทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศและการขายแพ็กเกจเที่ยวบิน โรงแรมสำหรับชาวจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม
ท่องเที่ยว โรงแรม และสายการบิน ปรับลดลงทั้งหมด จากการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจีนจะลดลง

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประ เทศ ไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม และสายการบินปรับลดลงแรง หลังจากไวรัสโคโรนาเริ่มแพร่กระจายมากขึ้น โดยราคาหุ้นตั้งแต่วันที่ 20-27 มกราคม 2563 หุ้นที่รับผลกระทบโดยตรงอย่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(AOT) ปรับลดลง 5.50 บาท หรือ 7.40% อยู่ที่ 68.75 บาท จากวันที่ 20 มกราคมปิดที่ 74.25 บาท ส่วนบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (ERW) ปรับลดลง 0.80 บาท หรือ 18.18% อยู่ที่ 4.40 บาท จากวันที่ 20 มกราคมปิดที่ 5.20 บาท และบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) (AAV) ปรับลดลง 0.24 บาท หรือ 11.76% อยู่ที่ 1.80 บาท จากวันที่ 20 มกราคม ปิดที่ 2.04 บาท

นางสาวนวลพรรณ น้อยรัชชุกร ผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ส่งผลต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม โดยได้ปรับลดนํ้าหนักการลงทุน จากเท่ากับตลาด เป็นน้อยกว่าตลาด รวมถึงให้หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงแรมระยะสั้น เนื่องจากรับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วน 28% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยหรือประมาณ 11 ล้านคน และ 29% ของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยรวมทั้งหมด 2 ล้านล้านบาท ในปี 2562

 

‘โคโรนา’แพร่พิษ  หุ้น โรงแรม การบิน อ่วม

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีผลกระทบต่อหุ้น ERW ที่มีสัดส่วนรายได้จากโรงแรมไทยประมาณ 90% ของรายได้รวม, บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) ประมาณ 36% ของรายได้รวม และบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ประมาณ 8% ของรายได้รวม ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประมาณการหุ้นในกลุ่มโรงแรมทั้งหมด

ขณะที่กลุ่มสายการบิน ให้นํ้าหนักการลงทุนน้อยกว่าตลาด จากผลกระทบสูงต่อผู้ที่มีรายได้จากลูกค้าจีน โดยปัจจุบัน AAV มีสัดส่วนรายได้จากจีนประมาณ 30%, AOT อยู่ที่ 15%, บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) อยู่ที่ 8% และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BA) อยู่ที่ 2% ทั้งนี้ ด้านผลกระทบต่อประมาณการ ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวน โดยการเดินทางที่มีความเสี่ยงชะลอตัวจากถือเป็นความเสี่ยงต่อสมมติฐานการเติบโตจำนวนผู้ใช้บริการปีบัญชี 2563 ของ AOT กำหนดไว้ที่ 4.7% ทุก 1% ของผู้ใช้บริการตํ่ากว่าคาด จะกระทบกำไร 1.0% และมูลค่าหุ้น 0.6 บาท

ขณะเดียวกัน สายการบิน AAV ที่มีความเสี่ยงกระทบมากกว่าสายการบินอื่น พบว่า ทุกๆ จำนวนผู้ใช้บริการตํ่าลงกว่าสมมติฐานทุก 1% จะกระทบต่อผู้ใช้บริการรวม 0.3% และ 0.15% นอกจากนี้ จะกระทบต่อกำไร 75% และมูลค่าหุ้น 0.4 บาท ด้าน BA ทุกๆ อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารตํ่ากว่าสมมติฐาน 1% จะกระทบขาดทุนเพิ่มขึ้น 75% และจะกระทบมูลค่าหุ้น 0.5 บาท ส่วน THAI ทุกๆ อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารตํ่ากว่าสมมติฐาน 1% จะกระทบขาดทุนเพิ่มขึ้น 32% และจะกระทบมูลค่าหุ้น 1.0 บาท

ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) จก. ระบุว่า หุ้นกลุ่มโรงแรม คาดว่ารายได้ที่ลดลง 5-10% จะส่งผลให้กำไรสุทธิปีนี้ลดลง 8-15% โดย ERW จะถูกกระทบหนักที่สุด เนื่องจากธุรกิจมีการกระจายตัวน้อย รองลงมาคือ MINT ซึ่งมี financial leverage อยู่ในระดับที่สูง ส่วน CENTEL จะถูกกระทบน้อยกว่าเพราะเกือบ 60% ของรายได้กระจายออกไปยังธุรกิจร้านอาหาร ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานการณ์ดีขึ้น คาดว่าหุ้น ERW จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง จากราคาหุ้นถูกกระทบหนักสุด

ขณะเดียวกัน คาดว่าผลกระทบกับกลุ่มสายการบินจะมีระดับความรุนแรงพอๆ กัน โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มนี้จะมี downside 6.6-25.0% หากคิดว่าจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศในปีนี้ลดลง 5-10% ซึ่งคาดว่า THAI จะถูกกระทบหนักที่สุดในกลุ่มสายการบินที่บล.ดูแลอยู่ ส่วน AOT จะถูกกระทบน้อยที่สุดจากโครงสร้างธุรกิจที่ดี มีรายได้จากธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบินถึง 44% แต่ภาวะตลาดจะกดให้หุ้นยังคงอ่อนแอไปจนกว่ากระแสข่าวการติดเชื้อจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว

 

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,544 วันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2563