"อุตตม"หวั่นงบ63ช้ากระทบลงทุนแสนล้าน

22 ม.ค. 2563 | 07:30 น.

"อุตตม"สั่งคลัง-สำนักงบฯ หาทางออกงบ 63 ช้า ก่อนเสนอนายก มั่นใจ ไม่กระทบเงินเดือนข้าราชการ แต่หวั่นกระทบเม็ดเงินลงทุนภาครัฐเดือนก.พ. 1 แสนล้านบาท 

การเสียบบัตรแทน 2 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย คือ “ฉลอง เทอดวีระพงศ์” ส.ส.พัทลุง และ “นาที รัชกิจประการ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่่อโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 มีความเสี่ยงอย่างมากที่พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 เป็นโมฆะ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 

ล่าสุดนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงและสำนักงบประมาณศึกษาแนวทางเลือกที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหากรณีกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ล่าช้า ให้มีผลกระทบต่อการลงทุนภาครัฐและการใช้งบประมาณที่ยังล่าช้าให้น้อยที่สุดแล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าแต่ละทางเลือกเป็นอย่างไรบ้าง เพราะจะต้องรอให้กระบวนการพิจารณาเรื่องงบประมาณดังกล่าวได้ข้อสิ้นสุดก่อน และหากได้ข้อสรุปจะเสนอแนวทางให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ปัญหาดังกล่าวจะกระทบต่อเม็ดเงินการลงทุนภาครัฐให้ลงสู่ระบบล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก.พ.ที่จะต้องมีเม็ดเงินลงทุนภาครัฐเข้าสู่ระบบในช่วงแรกอย่างน้อย 1 แสนล้านบาท และมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมตามไปด้วย แต่ยืนยันปัญหาที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการจ่ายเงินเดือนข้าราชการอย่างแน่นอน 

อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายอุตตม ยอมรับว่า ปัญหาความล่าช้าในการใช้เงินตามงบประมาณรายจ่ายนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นจึงมีผลต่อการทำงานของข้าราชการในการลงนามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ แน่นอน แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานราชการตั้งเรื่องจัดซื้อจัดจ้างและจัดทำ TOR ไว้ก่อน หากงบประมาณผ่านการพิจารณาก็สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที 

“จะออกเป็นพรก.หรือไม่ หรือจะเป็นแนวทางใด เรานำพิจารณาทั้งหมด รวมไปถึงกฎหมายงบประมาณ และวินัยการเงินการคลังต่างๆ ด้วย เพื่อให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งเชื่อว่าผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่น่ามี เพราะนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีแผนสำรองที่เหมาะสมได้  ซึ่งโดยส่วนตัวอยากให้ปัญหานี้จบให้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถใช้งบประมาณได้เร็วที่สุดเช่นกัน”นายอุตตม กล่าว

นอกจากนี้ นายอุตตม คาดการณ์ว่าในการประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะมีมาตรการเร่งรัดการลงทุนออกมา โดยจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะประคองเศรษฐกิจในขณะนี้ได้