นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนในประเทศให้มากขึ้น ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) จะเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยในสัปดาห์หน้า คปภ.จะมีการประชุมคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาการเปิดกว้างให้มีการขยายแผนการลงทุนของบริษัทประกันต่างๆ เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ทั้งการลงทุนในประเทศที่จะให้สามารถเข้าไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศได้ และขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
สำหรับแนวทางการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจประกันภัยไทย มีสาระสำคัญ 4 ประเด็น คือ 1. เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศจาก เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย ลดการกระจุกตัวในการลงทุนภายในประเทศ เพิ่มทางเลือกในการหาผลตอบแทนของบริษัทประกันภัย และแก้ปัญหาการบริหารสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับหนี้สินและภาระผูกผันที่มีต่อผู้เอาประกันภัย (Asset-Liability Management) โดยเฉพาะบริษัทประกันชีวิตที่มีภาระผูกพันต่อสัญญาประกันภัยระยะยาว
2. เพิ่มสัดส่วนและเพิ่มประเภทการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ใบทรัสต์ของกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือหน่วยของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ที่จดทะเบียนในประเทศไทยและต่างประเทศ เป็น25% จากปัจจุบันมีสัดส่วนในประเทศ 20%และต่างประเทศ5% เพื่อสนับสนุนนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะยาวของประเทศ และเพิ่มทางเลือกในการหาผลตอบแทนของบริษัทประกันภัย
3. เพิ่มประเภทการลงทุนของบริษัทประกันภัย โดยให้บริษัทถือตราสารทุนในบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบกิจการสถานพยาบาลในประเทศไทย รวมทั้งกิจการที่เกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง (Long term care)ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการประกันสุขภาพและรองรับปัญหาสังคมผู้สูงอายุของไทย (Aging Society)
4. เพิ่มประเภทการลงทุนของบริษัทประกันภัย โดยให้บริษัทถือตราสารทุนในกิจการที่ประกอบธุรกิจ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุน ยกระดับ และสร้างแรงจูงใจให้กับธุรกิจประกันภัย โดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและผู้เอาประกันภัยให้ดียิ่งขึ้น