สศค.เชื่อ จีน-สหรัฐฯ สงบศึก หนุนส่งออกไทย

16 ม.ค. 2563 | 13:05 น.

สศค. เชื่อ จีน-สหรัฐฯ ลงนามยุติสงครามการค้ารอบแรก เป็นปัจจัยบวกหนุนส่งออกไทยขยายตัวดีขึ้น ด้าน รมช.คลัง พร้อมดันเพิ่มประสิทธิภาพลงทุน-ใช้จ่ายในประเทศ หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างมั่นคง

 

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึง กรณีที่สหรัฐฯ และจีน ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกอย่างเป็นทางการ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ว่าสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นสัญญาณที่ดี ถือเป็นปัจจัยบวกกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลดีในภาคการส่งออก ที่จะมีทิศทางเป็นบวกมากขึ้นจากเดิม

สศค.เชื่อ จีน-สหรัฐฯ สงบศึก หนุนส่งออกไทย

อย่างไรก็ตามไทยยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าหลังจากนี้ทั้ง 2 ประเทศ จะปฏิบัติตามที่ได้ตกลงไว้ จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือออกข้อตกลงเพิ่มเติมอะไรออกมาหรือไม่ โดยกระทรวงการคลังจะมีการนำปัจจัยดังกล่าวนี้ไปพิจารณาร่วมในการปรับตัวเลขจีดีพีที่เตรียมจะประกาศในปลายเดือน ม.ค. 2563 ต่อไป

 

ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยส่งผลให้ภาคการส่งออกของไทยหลังจากนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะสถานการณ์การค้าโลกที่คลี่คลายลง จะส่งผลทั้งในด้านดี และมีประโยชน์กับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะไทยซึ่งเป็นประเทศขนาดเล็ก

สศค.เชื่อ จีน-สหรัฐฯ สงบศึก หนุนส่งออกไทย

“เชื่อว่าบรรยากาศการค้าโลก และของไทยจะดีขึ้น แต่ก็ต้องมาดูในรายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมและปรับตัวให้รับกับสถานการณ์หลังจากนี้ เพราะไทยเป็นประเทศขนาดเล็ก รวมทั้งต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้” นายสันติ กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนประเทศอย่างชัดเจน โดยเน้นการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจจากภายในเป็นหลัก ทั้งการอุปโภคบริโภค การลงทุน เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และผู้ประกอบการในประเทศ รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพภาคการผลิตที่ไทยยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางเร่งติดตามการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการทั้งหมด เพื่อเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ โดยได้สั่งการให้ส่วนราชการทั้งหมดเร่งการก่อหนี้ผูกพันในโครงการลงทุนต่าง ๆ เมื่อพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่าย ปี 2563 มีผลบังคับใช้ จะได้ดำเนินการทันที ไม่ต้องรอ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สศค.เชื่อ จีน-สหรัฐฯ สงบศึก หนุนส่งออกไทย

อย่างไรก็ดี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ อาทิ กรมบัญชีกลาง กรมศุลกากร และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้รับทราบทุกเดือน เพื่อติดตาม และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้การทำงานในทุกส่วนมีประสิทธิภาพมากที่สุด