นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธตลาดเงินและตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินเคลื่อนไหวผันผวน หลังจากที่ผู้เกี่ยวข้องกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งสัญญาณว่าวอาจจะไม่มีการลดกำแพงภาษีที่โดนัลด์ ทรัมป์ตั้งไว้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 0.2% ขณะที่ Euro Stoxx 50 แทบไม่เปลี่ยนแปลงโดยปิดลดลง 0.13%
ฝั่งตัวเลขเศรษฐกิจมีการรายงานเงินเฟ้อพื้นฐานในสหรัฐ (CPI) ที่เพิ่มขึ้นไม่มากอย่างที่ตลาดหวังที่ระดับ 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน แม้จะชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐสามารถ "คงอัตราดอกเบี้ย" ที่ระดับต่ำได้ แต่ก็ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่แข็งแกร่งเหมือนก่อน
ส่วนในฝั่งตลาดเงินไม่ได้มีความเคลื่อนไหวมากนัก ภาพหลักคือเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก แต่เงินบาทก็อ่อนค่าลงเช่นกัน หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยออกมายอมรับว่าเข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาทในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ในระยะสั้น เชื่อว่าทุกตลาดการเงินจะเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบเนื่องจากไม่มีข่าวใหม่ และแนะนำจับตาทิศทางของตลาดบอนด์มากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าฝั่งสหรัฐจะเริ่มมีปัญหาการเมือง
ขณะที่ปัจจัยบวกอย่างการเจรจาการค้าก็ลดบทบาทลง ทั้งหมดจะกดดันยีลด์สหรัฐให้ย่อตัวลง สวนทางกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่จะหนุนให้ยีลด์ญี่ปุ่นและยุโรปปรับตัวขึ้น ถ้าปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงได้ ตลาดการเงินโลกก็จะเปิดรับความเสี่ยง และค่าเงินฝั่งเอเชียรวมไปถึงเงินบาทก็จะแข็งค่าขึ้นด้วย