บจ.เรียกความเชื่อมั่น  ทุ่มซื้อหุ้นคืน เฉียดหมื่นล้าน

27 ธ.ค. 2562 | 09:30 น.

เปิด 5 บจ. ประกาศซื้อหุ้นคืนช่วงเดือน ธ.ค. 62-ก.ค. 63  วงเงินรวม 9,820 ล้านบาท โบรกฯเผยราคาหุ้นตอบรับดี แนะซื้อวันประกาศ และขาย 1 เดือนให้หลัง ชู RS เด่นสุด

 

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ยังไม่หยุดนิ่ง และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะตลาดทุนที่ค่อนข้างอ่อนไหวตามประเด็นข่าว ซึ่งที่ผ่านมาราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลายบริษัทปรับลดลงตามดัชนีหุ้นไทยที่ขึ้นๆ ลงๆ จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่หายไปพร้อมกับประเด็นข่าวต่างๆ ซึ่งวิธีที่จะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ก็คือ การซื้อหุ้นคืนของบริษัทนั่นเอง

รายงานข่าวจากตลท. เปิดเผยว่า มีบจ.ประกาศรับซื้อหุ้นคืนในช่วงเดือนธันวาคม 2562 - กรกฎาคม 2563 จำนวน 5 บริษัท คือ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) (ROJNA), บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP), บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP), บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS), บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG) และ บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (FORTH) วงเงินรวมที่ใช้ซื้อหุ้นคืนทั้งหมด 9,820 ล้านบาท

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัสฯ เปิดเผยว่า สภาวะตลาดที่ผันผวน ส่งผลให้ราคาหุ้นหลายบริษัทจดทะเบียนปรับฐานลงมาแรง จนหลายๆ บริษัทกลับมาเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนโดยการทยอยประกาศซื้อหุ้นคืนมากขึ้น โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 3 บริษัท และราคาหุ้นหลังประกาศถึงปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดี คือ TCAP เพิ่มขึ้น 2.7%, RS เพิ่มขึ้น 2.5% และ FSMART เพิ่มขึ้น 7.8%

บจ.เรียกความเชื่อมั่น  ทุ่มซื้อหุ้นคืน เฉียดหมื่นล้าน

 

อย่างไรก็ตาม หากไปดูข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 10 ปี ในกลุ่มตัวอย่างบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนเกือบทั้งหมดประมาณ 42 บริษัท และส่วนใหญ่จะประกาศซื้อหุ้นคืนในปีที่ตลาดหุ้นปรับฐานแรงเสมอ เช่น ปี 2558 ดัชนีหุ้นไทยปรับฐาน 14% ลดลงมากสุดใน 10 ปี ที่ผ่านมา มีบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน 5 บริษัท และมีมาต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2559 อีก 4 บริษัท ซึ่งในปี 2559 ดัชนีฟื้นตัวกว่า 19.8% ส่วนในปี 2561 ดัชนีลดลง 10.8% ลดลงมากสุดเป็นอันดับ 2 ใน 10 ปี ที่ผ่านมา มีการประกาศซื้อหุ้นคืนถึง 13 บริษัท หลังจากนั้น 6 เดือน ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.6% ขณะที่ ในปี 2562 ส่วนใหญ่มีการประกาศหุ้นคืนในช่วงครึ่งหลังของปีประมาณ 15 บริษัท หลังจากดัชนีหุ้นไทยมีการปรับฐานลงมาเยอะ

หลังจากบจ.ออกมาประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นจำนวนมาก ตลาดหุ้นมักจะตอบสนองในเชิงบวกและมีโอกาสรีบาวด์กลับในระยะถัดไปเสมอ แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีหุ้น หลายบริษัทที่น่าสนใจในเชิง Valuation แต่ความต่อเนื่องของการปรับขึ้นของตลาดหุ้น ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับภาวะแวดล้อม และปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ด้วย

สำหรับช่วงเวลาการลงทุนที่ดีที่สุดในหุ้นบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืนคือ ซื้อหุ้นบจ.ที่ประกาศซื้อหุ้นคืน ในวันที่ประกาศ และขายทำกำไรในอีก 1 เดือนให้หลัง ซึ่งมีโอกาสได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกราว 2.6% และบางบริษัทให้ผลตอบแทนเกิน 10% ขณะที่ หลังจากนั้นราคาหุ้นส่วนใหญ่จะย่อตัวลงตามลำดับ โดยเฉพาะหลังจากประกาศซื้อหุ้นคืนเกิน6 เดือน ผลตอบแทนที่ได้มีโอกาสย่อตัวจนติดลบ เนื่องจากบริษัทมีระยะเวลาในการซื้อหุ้นคืนได้ไม่เกิน 6 เดือน

 

ทั้งนี้ แนะนำลงทุนหุ้น RS ราคาหุ้นปรับฐานลงมาสวนทางกับแนวโน้มการเติบโต จนบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน และคาดว่าเร็วๆ นี้น่าจะมีข่าวดีจากการประกาศพันธมิตรช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางทีวีเพิ่มอีก 2 ช่อง เป็น 5 ช่อง หนุนกำไรปี 2563 เติบโตถึง 36%

นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า จากงบของ RS ในไตรมาส 3 ปี 2562 ออกมาตํ่ากว่าที่คาดไว้ และแนวโน้มไตรมาส 4 
ที่ยังชะลอ ทำให้บล.ปรับคาดการณ์ในปี 2562 รายได้ลงเป็น 3,765 ล้านบาท รวมถึงปรับกำไรสุทธิเป็น 421 ล้านบาท จากเดิมที่คาดไว้ 507 ล้านบาท ส่วนในปี 2563 ปรับรายได้ขึ้นเป็น 4,587 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปรับลงเป็น 578 ล้านบาท โดยราคาพื้นฐานปี 2563 ปรับเป็น 15.60 บาท จากราคาหุ้นปรับตัวลงมารับข่าวผลประกอบการที่ตํ่ากว่าตลาดคาดมากแล้ว ยังคงแนะนำซื้อ

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,534 วันที่ 26-28 ธันวาคม 2562

                       บจ.เรียกความเชื่อมั่น  ทุ่มซื้อหุ้นคืน เฉียดหมื่นล้าน