ทบ.ไฟเขียว จัดระเบียบบุกรุกที่ราชกว่า 10,000 ไร่

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2562 กรมฯได้ประชุมหารือร่วมกับกองทัพบก เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกและครอบครองที่ดินอย่างไม่ถูกต้องของประชาชนในพื้นที่ที่ราชพัสดุที่อยู่ในการดูแลของกองทัพบก โดยเบื้องต้นกองทัพบกเห็นด้วยในการนำที่ราชพัสดุที่ถูกบุกรุกในปัจจุบันที่อยู่ในการดูแลของกองทัพบกทั้งหมดมาจัดสรรและทำสัญญาเช่าอย่างถูกต้องให้กับประชาชนต่อไป โดยกองทัพบกเริ่มทยอยสำรวจข้อมูลและอยู่ระหว่างการส่งข้อมูลการบุกรุกดังกล่าวของประชาชนเข้ามาให้กรมดำเนินการแล้ว ซึ่งหลังจากนี้กรมจะนำข้อมูลที่ได้มาพิจารณา และจัดสรรประโยชน์เพื่อปล่อยพื้นที่ดังกล่าวให้ชาวบ้านได้ทำสัญญาเช่าอย่างถูกกฎหมายต่อไป

“เบื้องต้นเท่าที่กองทัพบกประเมิน พบว่า มีชาวบ้านไปบุกรุกพื้นที่ราชพัสดุที่มากกว่า 10 ปีมีเป็น 1,000 ไร่ 10,000 ไร่ เช่นที่จังหวัดกาญจนบุรี และเชียงราย มีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเรากับกองทัพบกจึงเห็นว่าควรจะนำที่ดินนั้นมาทำให้เกิดประโยชน์ ด้วยการให้ปะชาชนที่บุกรุกเช่า ซึ่งทางกองทัพเห็นชอบด้วย เพราะคือความถูกต้อง ซึ่งกองทัพได้เป็นหน่วยงานแรกๆ ที่ให้ความร่วมมือกับกรม และจะจัดสรรพื้นที่ให้ชาวบ้านได้ทำกิน”นายยุทธนา กล่าว

นอกจากกองทัพบกที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุแล้ว ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่จะดำเนินการเช่นเดียวกัน อาทิ พื้นที่ราชพัสดุในสังกัดของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) ที่พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่กว่า 10,000 ไร่ และ พื้นที่ราชพัสดุในสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ไม่ใช้ได้ประโยชน์ในปัจจุบัน เช่น โรงเรียนที่ไม่ได้เปิดกิจการแล้ว ถูกบุกรุกจากประชาชนในลักษณะเดียวกัน จึงอยู่ระหว่างการประสานเพื่อจัดสรรพื้นที่ให้เช่ากับประชาชนที่บุกรุกอย่างถูกต้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ ยืนยันการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้เป็นการขับไล่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ มาก่อน แต่เป็นการจัดระเบียบให้เช่าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งในปัจจุบันมีผู้บุกรุกพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของส่วนราชการทั่วประเทศจำนวน 130,000 ราย โดยกรมได้ตั้งเป้าปี 2563 จะทยอยแก้ปัญหาการบุกรุกดังกล่าว และเร่งทำสัญญาเช่ากับประชาชนได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 ราย ซึ่งถือเยอะกว่าปกติที่ในแต่ละปีจะสามารถเจรจาและทำสัญญาเช่าอย่างถูกต้องได้ประมาณ 4,000-5,000 รายเท่านั้น

“เป็นการแก้ไขปัญหาเชิงรุก ที่กรมจะเร่งดำเนินการอย่างจริงจังในปีหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำกินให้ชาวบ้าน ให้ได้มีพื้นที่ทำกินอย่างถูกต้อง เพราะทั้งหมดจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่บุกรุกเอง เนื่องจากเมื่อได้สัญญาเช่าต่างๆ แล้ว ก็จะสามารถนำที่ดินที่มีไปพิจารณาการขอสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพได้ด้วย”นายยุทธนา กล่าว

สำหรับประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่บุกรุกของหน่วยงานราชการใดๆ อยู่ สามารถแจ้งอุทธรณ์ เพื่อขอใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ทำกินได้ ถ้ายืนยันได้ว่าอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือก่อนปี 2546 เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับโฉนดที่ดินอย่างถูกต้อง กรมก็จะประสานกับกรมที่ดินให้มาสำรวจ และพิสูจน์ทราบ ก่อนออกโฉนดให้ต่อไป

ส่วนความคืบหน้าการใช้ที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานราชการนำมาปรับเพื่อหารายไดเชิงพาณิชย์นั้น นายยุทธนา กล่าวว่า ทางกองทัพบกพร้อมให้ความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าวอย่างเต็มที่ รวมถึงหน่วยงานราชการอื่นด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานและดำเนินการต่อไป