คลังโต้ อดีตผอ.WTO ไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว

13 ธ.ค. 2562 | 10:20 น.

รมว.คลังยัน ไม่ได้เน้นแจกเงินอย่างเดียว ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนเช่นกัน ระบุปี 64 จัดสรรงบลงทุนได้ 20% งบประมาณ พร้อมมีเงินพอลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานประเทศใน 5 ปีแน่ คุยค่ายรถยนต์แห่ตั้งฐานผลิตในไทยเพียบ

ในงานไทยแลนด์ สมาร์ท ม้นนี่ กรุงเทพ ครั้งที่ 10 เทศกาลการเงิน-ลงทุน นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกะทรวงการคลังเปิดเผยถึงกรณีที่ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตผู้อำนวยการใหญ่ องค์การการค้าโลก(WTO)แนะให้รัฐบาลส่งเสริมการลงทุนมากกว่าการแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนมาตลอด โดยเฉพาะการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) รวมถึงในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจในระยะปานกลาง แต่ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวอยู่ในปัจจุบัน รัฐบาลก็ยังจำเป็นต้องดูแลเศรษฐกิจระยะสั้นให้เดินหน้าต่อไปได้ ผ่านการบริโภคภายในประเทศ เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้เศรษฐกิจภายในประเทศแข็งแกร่งและผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้

คลังโต้ อดีตผอ.WTO ไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว

ทั้งนี้รัฐบาลได้วางแผนลงทุนในระยะปานกลาง 5 ปี ที่เน้นการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อุตสาหกรรมหลัก และเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ โดยในที่ประชุมคณะกรรมการวินัยการเงินการคลัง ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้ความสำคัญและยืนยันว่าในปี 2564-2567 มีแผนจัดสรรงบประมาณลงทุนให้ได้ 20% ของงบประมาณ ซึ่งกระทรวงการคลังมั่นใจมีเงินงบประมาณเพียงพอใจการดำเนินการ

คลังโต้ อดีตผอ.WTO ไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว

“เราจะดูทั้งรายได้และรายจ่ายควบคู่กันไป ซึ่งการจะจัดสรรเม็ดเงินลงทุนในแต่ละปี ก็จะต้องคำนึงถึงการจัดหารายได้ของประเทศอยู่แล้ว ซึ่งเราจะพยายามควบคุมดูแลให้เหมาะสม ฉะนั้นจึงมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในอนาคตแน่นอน”นายอุตตม กล่าว

คลังโต้ อดีตผอ.WTO ไม่ได้แจกเงินอย่างเดียว

นายอุตตม กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่  โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ที่ได้หารือร่วมกันระหว่าง 4 ฝ่าย ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน และผู้ประกอบการผู้ผลิตยานยนต์  เพื่อส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีเป็นที่ต้องการมากขึ้นในไทย โดยกระทรวงการคลังจะดูแลในส่วนของมาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุนให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยมากขึ้น โดยขณะนี้มีค่ายรถยนต์จำนวนมากยืนยันจะใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศสูงขึ้น และจะทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยแข่งขันได้ดีขึ้นเช่นกัน 

“คลังจะทำหน้าที่พิจารณาสิทธิประโยชน์ด้านภาษีให้กับนักลงทุน ขณะที่กระทรวงพลังงานจะดูเรื่องการใช้พลังงานในอนาคต และกระทรวงอุตสาหกรรมจะดูแลเรื่องเทคโนโลยีการผลิต ส่งเสริมยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นได้”นายอุตตม กล่าว