ดาวโจนส์ปิดบวก 29.58 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยถึงปีหน้า

11 ธ.ค. 2562 | 23:52 น.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) ที่ 27,911.30 จุด เพิ่มขึ้น 29.58 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,141.63 จุด เพิ่มขึ้น 9.11 จุด หรือ +0.29% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,654.05 จุด เพิ่มขึ้น 37.87 จุด หรือ +0.44%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมเฟดครั้งล่าสุดยังได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2563 ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมสำหรับการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า "ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่น่าพอใจ แม้เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความเสี่ยงอยู่ก็ตาม สำหรับการดำเนินนโยบายของเราตลอดปีที่ผ่านมานั้น เชื่อว่า นโยบายการเงินของเฟดเป็นผลดีต่อชาวอเมริกัน ส่วนการดำเนินนโยบายในปัจจุบันนั้น คาดว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ตราบเท่าที่เศรษฐกิจยังคงดำเนินไปด้วยดี"

นายพาวเวลยังกล่าวด้วยว่า เขาต้องการรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและสามารถเคลื่อนตัวอยู่เหนือระดับเป้าหมายของเฟด ก่อนที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป

นักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อสินค้าจีนในอัตรา 15% วงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์