‘บิ๊กซี-โลตัส’หลุด‘ชิมช้อปใช้’เฟส3

12 ธ.ค. 2562 | 08:00 น.

กรมบัญชีกลาง เตรียมทำหนังสือสั่งคลังจังหวัดทั่วประเทศ แจงเงื่อนไข “บิ๊กซี-โลตัส”รวมร้านขายยา-เสริมสวย หลุดชิม ช้อป ใช้ เฟส 3  ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 ไม่ได้ ยันเป็นไปตามเกณฑ์แต่แรก ไม่ได้ตัดสิทธิ รับมีร้านค้าหายไป 17-18% มั่นใจไม่ทำให้ยอดช็อปลดลง พร้อมคืนภาษีรอบแรก 15 ธันวาคม นี้ 

 

 

นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดี กรมบัญชีกลาง เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เตรียมทำหนังสือถึงคลังจังหวัดทั่วประเทศให้ทำความเข้าใจกับร้านค้าและประชาชนที่เข้าร่วมโครงการชิม ช้อป ใช้ ทั้ง 3 เฟสถึงการใช้จ่ายเงินผ่านกระเป๋า 2 เพื่อรับเงินแคชแบ็กคืน 15% และ 20% หลังจากได้รับร้องเรียนว่า ร้านค้าจำนวนมากไม่รับเงินผ่านกระเป๋า 2 โดยให้เหตุผลว่า ถูกตัดสิทธิรับเงินกระเป๋า 2 จากกรมบัญชีกลาง ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยยืนยันว่า ทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตั้งแต่เปิดโครงการแล้ว

ทั้งนี้ตามเงื่อนไขตั้งแต่เปิดรับลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการชิมช้อป ใช้ กำหนดไว้ว่า สำหรับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนประเภท ชิม ช้อป และใช้ ให้สามารถรับเงินผ่านทั้งกระเป๋า 1 และกระเป๋า 2 ของประชาชนได้ แต่สำหรับผู้ประกอบการที่ระบุเพียง ร้านค้าที่เป็นสินค้าและบริการทั่วไป หรือร้านค้าจิปาถะ จะสามารถรับเงินผ่านทั้งกระเป๋า 1 เท่านั้น ดังนั้นร้านค้าเหล่านี้จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการในการรับเงินผ่านกระเป๋า 2 จากประชาชนได้อยู่แล้ว

สำหรับร้านค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการในการรับเงินผ่านกระเป๋า 2 จากประชาชนได้ ประกอบด้วย ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น บิ๊กซี โลตัส เซ็นทรัล และท็อปส์ รวมไปถึงร้านขายยา ร้านเสริมสวย ร้านค้าทองคำ และอู่ซ่อมรถ ซึ่งจะทำให้จำนวนร้านค้าที่ให้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 หายไป 17-18% จากจำนวนร้านค้าที่กรมบัญชีกลางรับลงทะเบียนทั้งหมด 110,000 ราย

“กรมไม่ได้ตัดสิทธิร้านค้าเหล่านี้เลย แต่ตอนมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการครั้งแรก ร้านค้าไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นร้าน ชิม ช้อป หรือใช้ ซึ่งเป็นร้านกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการให้เปิดรับใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชัน เป๋าตัง ในส่วนของกระเป๋า 2 ได้ด้วย แต่ไปลงว่า เป็นร้านค้าทั่วไป ร้านจิปาถะ ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายเราแต่แรกและเราก็ได้กำหนดเงื่อนไขไว้อยู่แล้วว่า รับได้แค่กระเป๋า 1 เท่านั้น ฉะนั้นตรงนี้ร้านค้าอาจจะไม่รู้ และเข้าใจว่าถูกตัดสิทธิ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่” นางสาววิลาวรรณ กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนร้านค้าที่ให้ใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 หายไป 17-18% แต่กรมบัญชีกลางยังมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบต่อยอดการใช้จ่ายในโครงการชิม ช้อป ใช้ แน่นอน เพราะกระทรวงการคลัง ได้ผ่อนปรนเงื่อนไขให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถใช้จ่ายเงินซื้อสินค้าและบริการในจังหวัดที่อยู่ตามทะเบียนบ้านได้และจำนวนร้านค้าที่มีอยู่ หากรวมกับร้านค้าที่ติดตั้งเครื่อง EDC ที่พัฒนาระบบให้รองรับโครงการชิม ช้อป ใช้ อีก 80,000 เครื่อง จึงไม่เป็นปัญหาต่อการใช้จ่ายของประชาชนอย่างแน่นอน

สำหรับภาพรวมการใช้จ่ายโครงการชิม ช้อป ใช้ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน-5 ธันวาคม 2562 มีผู้ใช้สิทธิรวม 3 เฟสแล้ว 11.7 ล้านคน มีการใช้จ่ายรวม 19,233 ล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นยอดใช้จ่ายกระเป๋า 1 11,600 บาท ส่วนกระเป๋า 2 ใช้จ่ายแล้ว 7,600 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 

ส่วนของการคืนเงินแคชแบ็กนั้น กรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยคืนเข้าระบบ G-Wallet ในแอพพลิเคชัน เป๋าตัง กับประชาชนในรอบแรก วันที่ 15 ธันวาคม นี้ ซึ่งขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการคำนวณวงเงินคืนว่าเป็นเท่าไร ซึ่งการคืนเงินแคชแบ็กนั้น จะแบ่งเป็น 3 รอบ ประกอบด้วย รอบแรกวันที่ 15 ธันวาคม 2562 รอบที่ 2 วันที่ 15 มกราคม 2563 และรอบสุดท้าย วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้คืนสิทธิชิม ช้อป ใช้ ให้กับผู้ลงทะเบียน ในช่วงแรกที่ถูกตัดสิทธิจากการใช้เงินไม่ทัน 14 วัน 1.1 ล้านรายให้สามารถกลับมาใช้สิทธิในกระเป๋า 2 รับเงินคืน15-20% ได้ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 31 มกราคม 2563 แต่ไม่คืนสิทธิ 1,000 บาท 

หน้า 2 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,530 วันที่ 12 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2562