บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 11 ธันวาคม 2562 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เน้นหากำไรในกรอบ การเข้าซื้อมีแนวรับบริเวณ 1,453-1,445 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,471-1,484 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
แนวรับ : 1,453 1,445 1,4234 แนวต้าน : 1,471 1,484 1,493
ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากยูโรแข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีจาก ZEW ที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ประกอบหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า สหรัฐและจีนไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกในสัปดาห์นี้ ขณะที่นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐยังคงพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมการเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงกระตุ้นให้นักลงทุนยังคงถือครองทองคำเอาไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของราคาไม่มากนักเนื่องจากมีข่าวบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐเข้ามาเช่นกัน อาทิ รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่ระบุว่า สหรัฐจะชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำ -0.30 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) คาดเฟด “คง” ดอกเบี้ย แต่แนะนำจับตา FOMC Statement, แถลงการณ์ประธานเฟด, Dot Plot และ Economic Projections ซึ่งจะสะท้อนการดำเนินนโยบายของเฟดในปี 2020 ทั้งนี้ หากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Dovish มากกว่าคาดก็มีแนวโน้มจะเป็นปัจจัยหนุนทองคำ แต่หากเฟดส่งสัญญาณในเชิง Hawkish มากกว่าคาด อาจส่งผลกดทองคำได้เช่นกัน จึงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด