4หุ้นใหม่ IPO ดันมาร์เก็ตแคปปลายปี  5.7 หมื่นล.

12 ธ.ค. 2562 | 12:09 น.

โค้งสุดท้ายปลายปี 2562 บจ. 4 แห่งเตรียมขายหุ้นไอพีโอ มาร์เก็ตแคป ราคาไอพีโอรวม 57,606.58 ล้านบาท ตลท.ประกาศยกระดับการกำกับดูแลบจ. หลังเสนอขายหุ้นไอพีโอ ด้านกูรูคาดปีหน้ายังพาเหรดออกต่อเนื่อง

รายงานข่าวจากตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคม 2562 มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ที่จะเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 4 บริษัท คือ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.)  (BAM), บมจ. วิลล่า คุณาลัย  (KUN), บมจ. สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX) และ บมจ. อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG)

โดย BAM จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันแรกวันที่ 16 ธันวาคม มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ราคาไอพีโออยู่ที่ 56,787,500,000 บาท,  KUN วันที่ 17 ธันวาคม มาร์เก็ตแคป ราคาไอพีโออยู่ที่ 660,000,000 บาท  และ SFLEX วันที่ 19 ธันวาคม 2562 มาร์เก็ตแคป ราคาไอพีโออยู่ที่ 1,590,800,000 บาท ซึ่งเฉพาะทั้ง 3 บจ.มีมาร์เก็ตแคป ราคาไอพีโอ รวมอยู่ที่ 57,606,580,000 บาท 

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท. เปิดเผยว่า ตลท.ได้ยกระดับการกำกับดูแลบจ. ภายหลังเสนอขายหุ้นไอพีโอ และเข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะทำงานร่วมกับบจ.อย่างใกล้ชิด เพื่อแนะนำหลักเกณฑ์และกฎระเบียบต่าง เป็นเวลา 1 ปี ให้แต่ละบจ.ทำตามได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลและสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายบจ.ใหม่ที่เข้ามาในปีแรก จะต้องไม่มีเรื่องที่กระทำผิดตามที่หลักเกณฑ์และกฎระเบียบที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดไว้ หรือถูกขึ้นเครื่องหมายต่างๆ

4หุ้นใหม่ IPO ดันมาร์เก็ตแคปปลายปี  5.7 หมื่นล.

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทเอกชนให้ความสนใจเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยภาพรวมการเข้ามาจดทะเบียนปีนี้ ยังขยายตัวได้ดี ส่วนในปี 2563 คาดว่ายังได้รับความสนใจจากบริษัทเอกชนเพิ่มขึ้น สะท้อนจากรายชื่อบริษัทที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งยังมีบริษัทขนาดใหญ่ให้ความสนใจระดมทุนด้วยเช่นกัน

นายสมภพ  กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า หุ้นไอพีโอปีนี้โดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่เมื่อเทียบกับในอดีตที่มีความคึกคักยังสู้ไม่ได้ ซึ่งหุ้นไอพีโอที่ยังไม่มีความแข็งแรงส่วนหนึ่งมาจากภาวะตลาดโดยรวม โดยดัชนีหุ้นไทยในปีนี้มีความผันผวนค่อนข้างสูง จากเรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีน ที่มีประเด็นเปลี่ยนตลอด ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ไม่ค่อยแข็งแกร่ง เป็นภาพสะท้อนไปถึงผลประกอบการของบจ. และส่งผลไปถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงหุ้นไอพีโอด้วย ทั้งนี้หุ้นไอพีโอก็ยังเป็นหุ้นที่นักลงทุนให้ความสนใจตลอดเพราะเป็นหุ้นใหม่ที่เข้ามา อีกทั้งหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดีและแข็งแรงยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี

4หุ้นใหม่ IPO ดันมาร์เก็ตแคปปลายปี  5.7 หมื่นล.

ขณะที่หุ้นไอพีโอในปี 2563 มองว่าจะปรับตัวดีขึ้น และคงต้องจับตาดูปัจจัยเรื่องของความผันผวนจากปัจจัยภายนอกว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร ซึ่งหุ้นไอพีโอที่ผ่านมาปีนี้มีเข้ามาจดทะเบียนหลายตัว และปีหน้าก็ยังเชื่อว่ายังมีต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ใช้ในการระดมทุน ที่นำไปต่อยอดธุรกิจลดต้นทุนทางการเงิน ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นในปีหน้าไม่น่าจะแย่กว่าปีนี้ และบจ.ที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็น่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้เช่นกัน

“หุ้นไอพีโอหลายตัวในปีนี้ ราคาเทรดวันแรกต่ำกว่าจอง จริงๆ ในเรื่องความผันผวนต่างๆ ของนักลงทุนเป็นความเชื่อมั่น ถ้านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นหรือไม่สบายใจ หุ้นไอพีโอก็จะถูกลดความเสี่ยง ไม่อยากไปถือหุ้นนาน อย่างไรก็ดี ด้วยความผันผวนอาจทำให้ราคาหุ้นปรับลง แต่สุดท้ายหากผลประกอบการออกมาดีแข็งแกร่ง เป็นไปตามที่นักลงทุนคาดหวัง ราคาหุ้นก็จะสะท้อน แต่ไม่ใช่ว่าวันแรกต้องขึ้นเท่าไร อย่างไร เพราะต้องพิสูจน์จากผลประกอบการที่ออกมาแต่ละไตรมาสนายสมภพ กล่าว

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ฯ ระบุว่า แนวโน้มหุ้นไอพีโอในปีหน้า มองว่าไม่มีประเด็นที่น่าห่วง ในแง่ของความต้องการซื้อ ขอให้เป็นสินค้าที่ดีจริง ซึ่งปัญหาอยู่ที่การตั้งราคาสมเหตุสมผลไหม ถ้ามีอัพไซด์ให้นักลงทุน หุ้นไอพีโอก็ยังสามารถไปได้

หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,530 วันที่ 12-14 ธันวาคม 2562

                       4หุ้นใหม่ IPO ดันมาร์เก็ตแคปปลายปี  5.7 หมื่นล.