ความเป็นส่วนตัว (Privacy) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)

06 ธ.ค. 2562 | 09:05 น.

หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของบล็อกเชนคือ 'ความโปร่งใส' เนื่องจากธุรกรรมใดๆ ก็ตามที่ถูกกระทำผ่านบล็อกเชนข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อให้มีการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องจากเครือข่ายได้ ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตาม ที่อยู่ในเครือข่ายระบบก็จะสามารถมองเห็นการทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลนั้นก็ตาม ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ 'ความเป็นส่วนตัว' ของผู้ใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนหายไปอย่างสิ้นเชิง

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีคริปโทเคอร์เรนซีบางสกุลที่มีวัตถุประสงค์ในการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน โดยพัฒนาโปรโตคอล (Protocol) ที่มีคุณลักษณะพิเศษในการรักษาความเป็นส่วนตัวระดับสูงในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน อาทิ Zcoin, Zcash หรือ Moneroที่เน้นการรักษาความลับในการทำธุรกรรมของผู้ใช้งานให้สามารถปกปิดเส้นทางหรือที่มาที่ไปของธุรกรรม ทำให้ไม่สามารถตามรอยได้ ด้วยเหตุนี้เหรียญเหล่านี้จึงถูกมองว่าอาจสามารถใช้เป็นช่องทางในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางการเงินหากมีการใช้ผิดวัตถุประสงค์

 ความเป็นส่วนตัว (Privacy) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)

จากที่กล่าวไปข้างต้น เหมือนจะเข้าทางสำนวนที่ว่า 'ได้อย่างเสียอย่าง' ที่ทำให้ผู้ใช้ต้องเลือกระหว่าง 'ความเป็นส่วนตัว' หรือ 'ความโปร่งใส' แต่เมื่อเร็วๆนี้ ในประเทศไทยได้มีผู้พัฒนา Networkเพื่อตอบโจทย์ทั้งเรื่อง 'ความโปร่งใส่และความเป็นส่วนตัว' เข้าไว้ด้วยกัน หรือเรียกว่า Balance Overall หรือ BO Network เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น คริปโทเคอร์เรนซี หรือดิจิทัลโทเคนมีคุณสมบัติสำคัญคือ ทุกคนที่ใช้ BO Network นี้ สามารถทำธุรกรรมที่มีความเป็นส่วนตัวได้ โดยยังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อรักษาคุณสมบัติในความโปร่งใส ตรวจสอบได้อยู่ โดยข้อมูลธุรกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นจะถูกกำหนดการเข้าถึงเฉพาะร้านค้า และผู้ซื้อสินค้าเท่านั้น 

เปรียบเทียบกับการที่เราใช้เงินบาทเช่นธนบัตร 100 บาทเพื่อซื้อของกับร้านค้า จะพบว่าการทำธุรกรรมดังกล่าว ร้านค้าและผู้ซื้อสินค้าเท่านั้นที่ทราบว่ามีการทำธุรกรรมระหว่างกัน เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปเทคโนโลยีมีความเจริญมากขึ้น การใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อทำการโอนเงินระหว่างผู้ซื้อและร้านค้าเป็นเรื่องสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นส่งผลให้แอพพลิเคชั่นอย่าง SCB Easy KPlus หรือ ICBC Mobile Bank เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย จากความสะดวกสบายดังกล่าว พบว่าข้อมูลธุรกรรมนั้น ๆไม่ได้รับรู้แค่ผู้ซื้อและผู้ขายเหมือนการใช้ธนบัตร 100บาทอีกต่อไปแล้ว เพราะข้อมูลธุรกรรมดังกล่าว ธนาคารต้นทาง และธนาคารปลายทางสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ด้วย

การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีบล็อกเชนเมื่อไม่นานมานี้ทำทุกคนต่างให้ความสนใจ มีการนำไปใช้เพื่อเป็นเทคโนโลยีสำหรับการโอนเงินที่ไม่ใช้แอพพลิเคชั่นดิจิทัลแบงค์กิ้ง ตัวอย่างเช่น Bitcoin ที่ทุกคนต่างเคยได้ยินชื่อ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นทุก ๆ ปี แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างลืมไปก็คือ การทำธุรกรรมดังกล่าว ไม่ใช่เพียงแค่ธนาคารเท่านั้นที่เห็น แต่กลับเป็นว่าทุก ๆ คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมดังกล่าวสามารถเห็นได้ด้วย

นั่นจึงเป็นที่มาของ Balance Overall (BO) Network เครือข่ายที่เชื่อมสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทในโลกนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น คริปโทเคอร์เรนซี่ดิจิทัลโทเคนที่ทำงานแทนธนบัตรหรือเงินสดที่ออกโดยธนาคารในทุกๆ ประเทศ ให้มีความสามารถในการทำธุรกรรมที่มีความเป็นส่วนตัวสำหรับร้านค้าและผู้ซื้อสินค้าเท่านั้น ที่จะเข้าถึงข้อมูลธุรกรรมได้ เสมือนการใช้ธนบัตรในรูปแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง